มันก็คงถึงเวลาที่ ลิเวอร์พูล ควรจะได้รับเครดิตอย่างเต็มที่จากสิ่งที่พวกเขาสมควรได้รับ เมื่อกำลังเข้าใกล้แชมป์ พรีเมียร์ลีก ไปทุกขณะ
นี่ไม่ใช่ฤดูกาลที่ พรีเมียร์ลีก เบียดกันเข้มข้น เพราะ ลิเวอร์พูล ออกตัวดีตั้งแต่เริ่มฤดูกาล ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สะดุดแล้วสุดเล่า ส่วน อาร์เซน่อล ก็ทำแต้มหล่นเรื่อย ๆ เมื่อเปลี่ยนปีปฏิทิน
อาร์เตต้า เมิน ลิเวอร์พูล รอฉลอง โฟกัสพาอาร์เซน่อลคว้าชัย
ฮาวเวิร์ด เว็บบ์ รับเอง! ทาร์คอฟสกี้ควรโดนแดงจังหวะเสียบแม็ก อัลลิสเตอร์
พรีเมียร์ลีก-ลาลีการะอุ! แมนฯ ซิตี้ เชือดท้ายเกม-บาร์ซ่ากระหน่ำยิง 40 ครั้งคว้า 3 แต้ม
จากเหตุนี้ บางคนจึงสรุปง่าย ๆ ว่า อาร์เน่อ เจอเส้นทางที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ
อย่างไรก็ตาม
ความจริงแล้ว การคว้าแชมป์ลีกที่กำลังจะได้มานั้น มันไม่ได้เป็นมาจากเพียงเพราะความล้มเหลวของทีมอื่น
เหมือนอย่างที่ ลอรี่ แม็คอิลรอย ก็สมควรได้รับการยกย่องเช่นกัน จากผลงานคว้าแชมป์ The Masters
ไม่ใช่ไปบอกว่าโปรไอร์แลนด์เหนือได้แชมป์เพราะ สกอตตี้ เชฟฟ์เลอร์ ฟอร์มหลุด หรือ ไบรสัน เดอแชมโบ ฟอร์มหลุดในวันสุดท้าย
แต่มันเป็นเพราะความยอดเยี่ยมของ แม็คอิลรอย เองต่างหาก…
ฟากฝั่ง ลิเวอร์พูล พวกเขาคือทีมที่ดีที่สุดตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบัน
ลิเวอร์พูล เก็บแต้มได้มากกว่าคู่แข่งด้วยสิ่งที่มีเหนือกว่าทีมอื่น ไม่ว่าจะเรื่องความสามารถ, การวางแผน และความคงเส้นคงวา
อาร์เน่อ ไม่เคยออกตัวอะไรมาก แม้ว่าตอนต้นถึงกลางซีซั่น ลิเวอร์พูล ไล่ถล่มทีมท้ายตาราง รวมถึงเมื่อผ่านไป 19 นัด เจอกันหมดทุกทีม มีแค่ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ เท่านั้นที่หยิบชัยชนะจากพวกเขาได้
ช่วงหลัง แม้บางคนคิดว่า ลิเวอร์พูล อยู่ในช่วงขาลง แต่เมื่อมองจากผลงาน 7 นัดหลังในลีก พวกเขาชนะได้ถึง 6 เกม
จะบอกว่าทีมอื่นอ่อนแอในปีนี้ ก็คงไม่ใช่ ผลงานของทีมจาก อังกฤษ บนเวทียุโรปได้ตอกย้ำถึงความแข็งแกร่งของทีมอื่น ๆ
อาร์เซน่อล เล่นงาน เรอัล มาดริด จนเก้าอี้ คาร์โล อันเชล็อตติ สะเทือน
วิลล่า ทำให้ เปแอสเช ทีมเต็ง ยูซีแอล ถึงกับหัวหมุน
ส่วนผลงานในลีกของ สเปอร์ส กับ แมนยู ที่ดูน่าหัวเราะ แต่สองทีมนี้กลับทะลุถึงรอบรองฯ ยูโรปา ลีก ทั้งที่อันดับในลีกค่อนไปท้ายตาราง
สโมสรอื่น ๆ ใน ยุโรป ทราบดีว่าการเจอกับทีมอังกฤษ ไม่ใช่เรื่องง่าย
และมันก็ควรจะยกย่องทีมที่อยู่บนจุดสูงสุดของลีกลีกนี้ มิใช่หรือ…?
อาจมีใครที่คาดหวังว่าอยากให้การลุ้นแชมป์มันเบียดคู่คี่หรือกลุ่มโซนหนีตายไปลุ้นจนถึงวันสุดท้าย
ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในปีนี้มันไม่ได้เกิดขึ้นแบบนั้น ทำให้บางคนไม่ค่อยรู้สึกตื่นเต้น
ถึงกระนั้น การลดคุณค่าของ ลิเวอร์พูล เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องเลยสักนิด เพราะพวกเขาคุมสถานการณ์ไว้ได้หมดมาตลอด โดยมี โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ทำประตูและแอสซิสต์ที่เป็นตัวเลขประวัติศาสตร์
แม้ช่วงหลังฟอร์มไม่ได้ดูน่าประทับใจ แต่ก็ยังดีพอที่จะหนีห่างจากทีมที่ไล่ตามมา
เอาเข้าจริง การเจอทีมอย่าง อาร์เซน่อล ไม่ได้ง่ายเลย
“เดอะ กันเนอร์ส” เล่นได้ยอดเยี่ยมในเกมที่เสมอกัน 2-2 เมื่อเดือนตุลาคม และ นิวคาสเซิ่ล ก็แสดงให้เห็นถึงศักยภาพแมตช์เจ๊าเดือด 3-3
ความแข็งแกร่งของทีมอย่าง ฟอเรสต์, บอร์นมัธ, ฟูแล่ม, ไบรท์ตัน ที่ยกระดับจนพาตัวเองมีลุ้นไปเล่นฟุตบอลสโมสรยุโรป วิลล่า เองก็ก้าวขึ้นมาเทียบเคียงท็อปโฟร์
การเจอกันระหว่าง ฟอเรสต์-แมนซิตี้ และ วิลล่า-พาเลซ เราอาจคาดเดาผู้ชนะจากสองเกมนี้บนถ้วยเอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศได้ แต่นี่ก็แสดงให้เห็นว่าทีมในลีกสูงสุด อังกฤษ กระจายตัวความแข็งแกร่งมากกว่าที่เคย
แล้ว ลิเวอร์พูล เอง ก็สามารถรับมือกับการกระจายตัวนี้ได้อย่างดี
แมนยู เคยคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ตอนปี 1999/00 และ 2000/01 ด้วยการทิ้งห่างอันดับสอง 18 กับ 10 แต้ม ซึ่งตอนนั้นก็เคยมีข้อกังขาเรื่องของคุณภาพคู่แข่งเช่นกัน
ลิเวอร์พูล มีโอกาสเก็บแต้มได้สูงสุด 94 คะแนน ตัวเลขไม่ได้สวยงามเท่าชุดแชมป์ 2019/20 ที่โกย 99 แต้ม
ไม่ว่าจะจบที่คะแนนเมื่อไหร่ และเมื่อเวลาผ่านไป สิ่งเดียวที่คนจะจดจำก็คือ “ทีมที่เป็นแชมป์”
HOSSALONSO
,