คุ้มค่ายิ่งกว่าคำว่ากองหลังเก่งที่สุดในโลก ! 5 เหตุผลที่ ลิเวอร์พูล เก็บ ฟาน ไดค์

สารบัญ

การขยายสัญญาฉบับใหม่ไปจนถึงปี 2027 ทำให้ ฟาน ไดค์ กลายเป็นนักเตะ “เดอะ เร้ดส์” ที่ได้ค่าเหนื่อยสูงที่สุดเป็นอันดับสองของสโมสร หลังมีรายงานว่าเขาได้รับค่าเหนื่อยเพิ่มเป็น 385,000 ปอนด์ (ราว 16.94 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์

แน่นอนว่าการขยายสัญญาของ ฟาน ไดค์ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ทำให้กลุ่มทุน เฟนเวย์ สปอร์ตส์ กรู๊ป ซึ่งเป็นเจ้าของสโมสรต้องควักกระเป่าจ่ายค่าเหนือยกว่า 900,000 ปอนด์ (ราว 36.60 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์ให้กับทั้ง 2 คน แต่ก็ไม่น่าจะหนักหนาสาหัสอะไรมากนักเพราะสโมสรได้รับเงินจากการเล่นฟุตบอลระดับสูงนั้นมหาศาล

เกมรุกที่ดีที่สุดคือเกมรับ! ฟอเรสต์ ท้าทายระบบครองบอลต่ำเบอร์1พรีเมียร์ลีก
ถ้าไม่เจ็บเจ๋งแน่! ฟาน ไดค์ เชื่อ เคียซ่า คือการเสริมทัพที่ดี
ลือสนั่น! “สเปอร์ส” เตรียมปลดแอนจ์ แม้คว้าแชมป์ยูโรปา ลีก

สำหรับการจับ กัปตันชาวดัตช์ อยู่เล่นในแอนฟิลด์ต่อไปอย่างน้อย 2 ปี ถือว่ามีข้อดีมากกว่าข้อเสีย เพราะประสบการณ์และศักยภาพของนักเตะจะสร้างประโยชน์ให้กับทีมหลายด้านแน่นอน 

1. เป็นเสาหลักของทีม

ตอนนี้ ลิเวอร์พูล ต้องเตรียมความพร้อมสำหรับการสร้างทีมให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นกว่าในฤดูกาลนี้ และ อาร์เน่อ สล็อต จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเสริมทัพในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะซัมเมอร์นี้

แน่นอนว่า ฟาน ไดค์ กับ โม ซาลาห์ ซึ่งเป็นสองนักเตะที่เก่งที่สุดในโลกในตำแหน่งของพวกเขา จะยังคงเป็นแกนหลักของทีมต่อไป และหากมองจากผลงานของพวกเขาก็สมควรที่จะต้องเป็นแบบนั้น

ด้วยรูปร่างสูงใหญ่ประมาณ 195 เซนติเมตร และเต็มไปด้วยความแข็งแกร่งแม้จะอายุ 33 ปีแล้วก็ตาม แต่เขายังคงเป็นที่ยำเกรงของเพื่อนร่วมทีม และคู่แข่งเวลาที่ต้องประจันหน้ากันในสนาม

 ฟาน ไดค์ พิสูจน์ให้เห็นมาแล้วตอนที่ตกอยู่ในสถานการณ์ดวลกันแบบตัวต่อตัว และเขาสามารถรับมือกับจังหวะแบบนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม และนั่นคือสิ่งที่ ลิเวอร์พูล ต้องการจากเขา เพราะมันช่วยทำให้ “หงส์แดง” รอดพ้นหายนะได้อย่างน่าเหลือเชื่อ 

เรื่องที่น่าสนใจมากๆ ก็คือ เออร์ลิง ฮาลันด์ ซึ่งได้รับการเชิดชูว่าเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดในโลก ไม่เคยเอาชนะเขาได้เลยเวลาที่ต้องดวลกันในสนาม โดยเจ้าตัวยิงได้แค่ 3 ประตูจาก 8 เกมที่สู้กับ ฟาน ไดค์ ตอนที่เล่นให้ เร้ดบูลล์ส ซัลซ์บวร์ก, แมนซิตี้ และ ทีมชาตินอร์เวย์ 

 ดังนั้นการที่ ฟาน ไดค์ ตัดสินใจต่อสัญญาฉบับใหม่ ทำให้เขายังคงเป็นหัวใจในเกมรับของทีม และที่สำคัญผลงานของเจ้าตัวจะช่วยประคับประคองนักเตะอย่าง อิบราฮิม่า โกนาเต้ และ จาเรลล์ ควอนซาห์ ให้เติบโตยิ่งขึ้น 

2. เป็นมากกว่าเซนเตอร์ฮาล์ฟ

ฟาน ไดค์ ได้รับการพิจารณาในฐานะผู้นำทีมมานานแล้ว และในที่สุดเข้าก็ได้สวมปลอกแขนกัปตันทีมหลังจาก จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ซึ่งรับใช้ทีมมายาวนานที่สุดตัดสินใจโบกมือลาถิ่นแอนฟิลด์เมื่อปี 2023 เพื่อไปเล่นที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย

แนวรับทีมชาติเนเธอร์แลนด์ แสดงออกอย่างชัดเจนว่าเขากับครอบครัวเป็นส่วนหนึ่งของสโมสรและเมืองนี้ โดยเจ้าตัวให้สัมภาษณ์หลังจากขยายสัญญาใหม่ว่าในหัวมีแต่ ลิเวอร์พูล เท่านั้น และต้องการอยู่ที่นี่ตลอดไป 

 สิ่งที่ ฟาน ไดค์ แสดงออกมาให้เห็นไม่ใช่แค่การพูดให้ดูเท่เท่านั้น เพราะเจ้าตัวเปิดเผยอย่างชัดเจนด้วยการบรรจบจูบตราสโมสรหลังจากที่โหม่งประตูชัยช่วงนาทีสุดท้ายนำ “หงส์แดง” เฉือนชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เมื่อสัปดาห์ก่อน 

ฟาน ไดค์ มีความเป็นผู้นำสูงมากทั้งในและนอกสนาม ขณะเดียวกันเขายังเป็นนักเตะที่มีความแข็งแกร่งในการเล่นเกมรับ และยังสามารถขึ้นไปช่วยเล่นเกมบุก วางบอลยาวได้แม่นยำ และทำประตูได้บ่อยๆ ในจังหวะที่เล่นลูกตั้งเตะ สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องหมายการค้าของเจ้าตัวไปแล้ว 

 ปัจจุบันดาวเตะจากแดนกังหันลม เป็นกองหลังเพียงคนเดียวของ “หงส์แดง” ที่ทำผลงานได้เหนือกว่า (ซามี่) ฮูเปีย ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ และจะยังคงครอบครองปลอกแขนกัปตันทีมต่อไปอีกนาน จนกว่าจะมีนักเตะคนใหม่ที่มีความเป็นผู้นำก้าวขึ้นมาเพื่อสืบทอดตำแหน่งแทน

นี่ไม่ใช่การอวยเกินจริง เพราะคุณสมบัติที่ทำให้ (สตีเว่น) เจอร์ราร์ด เป็นกัปตันทีมที่เพอร์เฟกต์ของทีมปรากฎให้เห็นอยู่ในตัวของ ฟาน ไดค์ ซึ่งเป็นแบบอย่างทั้งในและนอกสนาม รวมทั้งเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเพื่อนร่วมทีมของเขาทุกคน 

3. ผู้นำในยุคใหม่

 โค้ชอาร์เน่อ แสดงออกอย่างชัดเจนว่า ฟาน ไดค์ คือผู้นำของทีมอย่างแท้จริง และการที่นักเตะตัดสินใจฝากอนาคตเอาไว้กับทีมย่อมเป็นเรื่องดีกับสโมสร และบรรดานักเตะที่จะก้าวขึ้นมาเล่นในยุคใหม่ 

 คำพูดของนายใหญ่ชาวดัตช์ เป็นการบ่งบอกได้อย่างชัดเจนถึงความสำคัญของ ฟาน ไดค์ และถ้าหาก ลิเวอร์พูล ดันตัดสินใจปล่อยเขาออกไปในช่วงซัมเมอร์นั่นหมายความว่าพวกเขาคงสูญเสียผู้เล่นที่เป็นมากกว่ากองหลังที่แกร่งที่สุดในโลก 

  ผลงานและความสำเร็จของ ฟาน ไดค์ เป็นบทพิสูจน์ได้อย่างชัดเจนว่า มันคงเป็นไปได้ยากมากที่จะหาใครเข้ามาทดแทนเขา เพราะนักเตะมีอิทธิพลกับทีมชุดใหญ่ และบรรดานักเตะเยาวชนะในสโมสรแห่งนี้ 

แม้ในทีมอาจจะมีผู้นำคนอื่นในทีม อย่างเช่น แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ซึ่งฟอร์มการเล่นของเขาไม่สามารถทัดเทียมกับอิทธิพลที่ ฟาด ไดค์ มี ดังนั้น ณ ตอนนี้ ไม่มีนักเตะคนไหนในทัพ “เดอะ เร้ดส์” ที่จะมีออร่าความเป็นผู้นำเท่ากับ แนวรับชาวดัตช์ เลย 

สำหรับฤดูกาลหน้า ลิเวอร์พูล จะต้องเจอกับบทพิสูจน์ครั้งใหม่ และ โค้ชอาร์เน่อ ต้องการให้ ฟาน ไดค์ คอยทำหน้าที่บัญชาการทีมต่อไป เพราะเขาจะเป็นเหมือนตัวแทนของความสำเร็จในยุคใหม่ ฉะนั้นการปล่อยเขาไปย่อมส่งผลเสียร้ายแรงมากๆ 

4. ประสบการณ์พัฒนาแข้งใหม่และดาวรุ่ง

การขยายสัญญา 2 ปีกับ ฟาน ไดค์ เป็นการเสี่ยงเพื่ออนาคตของทีม ยิ่งไปกว่านั้น ลิเวอร์พูล อาจจะใช้ประโยชน์จากประสบกาณ์ของเขาเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับแนวรับยุคใหม่

บอร์ดบริหาร “หงส์แดง” รู้ว่าการจะหาเซนเตอร์ฮาล์ฟที่ครบเครื่องแบบ ฟาน ไดค์ มันยากมากในวงการลูกหนังยุคปัจจุบัน ดังนั้นพวกเขาจึงเลือกที่จะเก็บเจ้าตัวเอาไว้ เพราะถือเป็นสมบัติที่ล้ำค่าสำหรับสโมสร 

แน่นอนว่าในช่วงซัมเมอร์นี้ ลิเวอร์พูล อาจจะซื้อกองหลังเพิ่มโดยเป้าหมายหลักก็คือ ดีน ฮุยเซ่น แนวรับของ บอร์นมัธ ฉะนั้น ฟาน ไดค์ จะใช้ประสบการณ์ของเขาในการฟูมฟักศักยภาพให้กับนักเตะรายนี้ เหมือนที่เขาทำให้เห็นมาแล้วกับ โกนาเต้ และ ควอนซาห์ 

อย่างที่หลายคนบอกประสบการณ์ของ ฟาน ไดค์ มีค่ามากกว่าค่าเหนื่อยที่สโมสรควักกระเป๋าจ่ายให้เขา ดังนั้นช่วงระยะเวลา 2 ปีต่อจากนี้ ปราการหลังชาวดัตช์ จะมอบหลายสิ่งที่มีค่าให้กับสโมสรและนักเตะรุ่นใหม่แน่นอน 

5. ต้นแบบของความจงรักภักดี

หนึ่งในสิ่งที่นักฟุตบอลอาชีพยุคปัจจุบันไม่ค่อยมีก็คือความจงรักภักดี แต่ ฟาน ไดค์ แสดงให้เห็นถึงสิ่งนี้ และมันเปรียบเสมือการเป็นต้นแบบที่ดีสำหรับนักเตะรุ่นต่อๆ ไป

ประเด็นนี้ไม่เกี่ยวกับ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เพราะสาวก “เดอะ ค็อป” เข้าใจวิถีลูกหนัง เพราะหากนักเตะตัดสินใจอำลาทีม นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาไม่ได้รักและภักดีสโมสรอันเป็นที่รัก แต่แค่ต้องการออกไปเติบโตตามวิถีนักเตะอาชีพ

สิ่งที่ ฟาน ไดค์ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนก็คือการที่ตัวเขา, ภรรยา และลูกๆ มีความสุขกับชีวิตในเมืองลิเวอร์พูล มันเป็นการบ่งบอกว่าที่นี่เปรียบเสมือบ้านหลังที่สองของครอบครัวเขา และไม่มีความจำเป็นที่ต้องย้ายออกไปหาความท้าทายใหม่

หลายคนอาจบอกว่าด้วยอายุ และค่าเหนื่อยที่แพงลิ่ว ทำให้เขาตัดสินใจอยู่ในถิ่นแอนฟิลด์ แต่หากมองให้ลึกลงไปในจิตใจ ฟาน ไดค์ แสดงให้เห็นว่าเขาคือสเกาเซอร์พันธุ์แท้ทั้งตัวและหัวใจ

สิ่งเหล่านี้จะส่งต่อไปยังบรรดาเด็กๆ รวมทั้งนักเตะดาวรุ่ง ที่จะเห็นถึงความรักและศรัทธาของ ฟาน ไดค์ ที่มีให้กับสโมสรลิเวอร์พูล อย่างแท้จริง

TOMMY T.

,

บริการ

tag:
กีฬาต่างประเทศ ข่าวกีฬา ตลาดนักเตะ ตารางบอล ตารางบอลวันนี้ ทีมชาติไทย นิวคาสเซิ่ล บอลวันนี้ บาร์เซโลน่า บาเยิร์น มิวนิค บุนเดสลีกา บ้านผลบอล ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ปีศาจแดง ผลบอล ผลบอลเมื่อคืน ผีแดง พรีเมียร์ พรีเมียร์ลีก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ พรีเมียร์ลีกอังกฤษ ฟุตบอลต่างประเทศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ยูโรปา ลีก รูเบน อโมริม ลาลีกา ลาลีกา สเปน ลิเวอร์พูล วิเคราะห์บอล สเปอร์ส หงส์แดง อาร์เซน่อล อาร์เน่อ สล็อต เชลซี เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เปแอสเช เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ เรอัล มาดริด แมนซิตี้ แมนยู แมนยูไนเต็ด แมนฯ ยูไนเต็ด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โปรแกรมบอล โปรแกรมบอลวันนี้