โดยเฉพาะฟุตบอลสมัยใหม่ซึ่งแฟนบอลมีความอดทนน้อยลงด้วยต้องการเห็นทีมประสบความสำเร็จในเร็ววันจนกลายเป็นการทำให้งานกุนซือมีความกดดันสูง
แต่หากจะถามว่าใครที่อยู่ในตำแหน่งจนถึงปัจจุบันได้อย่างยาวนานที่สุดในห้าลีกใหญ่ของยุโรป นี่คือ 10 กุนซือที่ขาเก้าอี้มั่นคงมากกว่าเพื่อนร่วมอาชีพ
เงินน้อยใช้สอยประหยัด! แมนยู ล็อกเป้า 5 นักเตะชั้นดีค่าฉีกสัญญาราคาไม่แรง
ไม่ต้องย้ายบ้าน! รอย คีน แนะ เควิน เดอ บรอยน์ โยกซบ แมนยู
แฟนปืนยิ้ม! อาร์เซน่อล ถกสัญญาใหม่ โธมัส ปาร์เตย์
10. คาร์โล อันเชล็อตติ – 3 ปี 9 เดือน
กลับมาคุมทีม เรอัล มาดริด เป็นหนที่สอง แต่ถูกลือว่ากำลังจะโดนปลดหลังจบซีซั่นนี้เนื่องจากไม่อาจพาทีมป้องกันแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้สำเร็จ
มีสัญญากับ ราชันชุดขาว จนถึงปี 2026 แต่ตกเป็นข่าวอย่างหนักกับทีมชาติ บราซิล รวมทั้ง โรม่า ทีมที่เขาเคยค้าแข้งด้วยเนื่องจาก เคลาดิโอ รานิเอรี่ จะอำลาตำแหน่งในซัมเมอร์นี้
9. ซิโมเน่ อินซากี้ – 3 ปี 9 เดือน
สร้างผลงานกับ อินเตอร์ มิลาน ได้อย่างยอดเยี่ยมจนถูกมองว่าเป็นกุนซือที่ได้รับการสรรเสริญน้อยเกินจริง
พาทีม งูใหญ่ คว้าแชมป์ได้รวม 6 รายการแล้ว และได้เข้าชิงถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่น 2022/23 ด้วย แต่พ่ายให้กับ แมนฯ ซิตี้ อย่างหวุดหวิด 1-0
สำหรับซีซั่นนี้ กุนซือวัย 49 ปียังมีโอกาสพาทีมป้องกัน สคูเด็ตโต้ ได้ แต่ต้องขับเคี่ยวกับ นาโปลี อย่างถึงพริกถึงขิง
8. เมาริซิโอ เปเยกรินี่ – 4 ปี 8 เดือน
อดีตนายใหญ่ทีม แมนฯ ซิตี้ ชุดคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ซีซั่น 2013/14 ยังสร้างชื่อกับ เรอัล เบติส ได้อย่างน่ายกย่องแม้จะมีอายุ 71 ปีแล้ว
และที่เห็นๆ โค้ชชาวชิลีสามารถเรียกฟอร์มเก่งของ อันโตนี่ ปีกแซมบ้ากลับคืนมาได้อันเป็นสิ่งที่ทั้ง เอริค เทน ฮาก และ รูเบน อโมริม สองนายใหญ่ แมนฯ ยูไนเต็ด ล้มเหลวด้วยกันทั้งคู่
7. มิเกล อาร์เตต้า -5 ปี 8 เดือน
แม้จะยังพา อาร์เซน่อล คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ไม่ได้ แต่กุนซือสแปนิชคุมทีม ปืนใหญ่ ได้ลุ้นโทรฟี่ใบสำคัญนี้ตลอดสามซีซั่นหลัง
หลังพาทีมเมืองกรุงคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ได้ตั้งแต่ซีซั่นแรกของเขา ถึงตอนนี้ อาร์เตต้า กำลังหวังพา เดอะ กันเนอร์ส สร้างประวัติศาสตร์ครองแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นสมัยแรกของสโมสร
6. อิมาโนล อัลกูอาซิล – 6 ปี 4 เดือน
ในฐานะลูกหม้อของ เรอัล โซเซียดาด ซึ่งค้าแข้งกับทีมมาตั้งแต่ชุดเยาวชนก่อนก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ โค้ชสแปนิชวัย 53 ปีกุมบังเหียนสโมสรนี้ทีมเดียวมาตั้งแต่แรกกับทุกระดับด้วย
ไม่เพียงจะพาทีมคว้าแชมป์ โกปา เดล เรย์ ปี 2020 จาการพิชิต แอธเลติก บิลเบา 1-0 หากแต่ อัลกูอาซิล ซึ่งมีเรตพาทีมชนะเกือบ 50% ขึ้นชื่อในการปลุกปั้นนักเตะเช่นกันทั้ง มาร์ติน โอเดอการ์ด , มาร์ติน ซูบิเมนดี้ , มิเกล เมริโน่ , อเล็กซานเดอร์ อิซัก และ ทาเคฟุสะ คุโบะ
5. โธมัส แฟร้งค์ – 6 ปี 5 เดือน
เป็นอีกชื่อของกุนซือที่ได้รับการยอมรับในฝีไม้ลายมือจึงไม่แปลกที่นายใหญ่ทีม เบรนท์ฟอร์ด จะตกเป็นข่าวโยงกับหลายทีมชั้นนำเรื่อยมาจากสไตล์การเล่นที่น่าดูชม
นอกจากนี้ ยังเป็นที่ชื่นชอบของสื่ออีกด้วยจากการให้สัมภาษณ์อย่างเป็นสุภาพบุรุษ แต่ไม่แน่ว่าจะได้คุมทีม เดอะ บีส์ ต่อไปอีกนานเท่าไหร่หากเขาได้รับข้อเสนอที่เย้ายวน
4. เป๊ป กวาร์ดิโอล่า – 8 ปี 9 เดือน
เกือบอำลาทีม แมนฯ ซิตี้ อยู่แล้ว แต่สุดท้ายตัดสินใจต่อสัญญากับ เรือใบสีฟ้า ออกไปอีกสองปี
แน่นอนว่านายใหญ่สแปนิชกุมบังเหียนทีมดังของ พรีเมียร์ลีก อย่างยาวนานที่สุดในอาชีพผู้จัดการทีมของเขาหลังสร้างชื่อได้อย่างยอดเยี่ยมกับทั้ง บาร์เซโลน่า และ บาเยิร์น มิวนิค
3.จานปิเอโร่ กาสเปรินี่ – 8 ปี 9 เดือน
เนรมิต อตาลันต้า ให้กลับมาเป็นทีมที่แข็งแกร่งอีกครั้ง และพาทีมคว้าแชมป์ ยูโรปา ลีก ซีซั่น 2023/24 ได้สำเร็จจากการกำราบ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น 3-0
สำหรับซีซั่นนี้ ทีมลูกหนังแห่งแบร์กาโม่รั้งอันดับสามของ เซเรีย อา จึงหมายความว่าพวกเขามีโอกาสคว้าโควต้าลงเล่นถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นหน้าได้
2. ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ 13 ปี 3 เดือน
คุมทีม แอตเลติโก มาดริด เกินกว่าศตวรรษแล้ว และไม่มีวี่แววว่าทีมตราหมีจะตัดสินใจเปลี่ยนตัวกุนซือ
เป็นที่รักใคร่ของกองเชียร์จากการคุมทีมอย่างมีอารมณ์ร่วมสูงตลอดทั้งเกมซึ่งส่งผลให้ขุนพลทีม แอตเลติโก มาดริด มีแรงกระตุ้นจนแพ้คู่แข่งยากมากที่สุดทีมหนึ่งของวงการลูกหนัง
ในส่วนของความสำเร็จ โค้ชอาร์เจนไตน์พาทีมคว้าแชมป์ ยูโรปา ลีก สองครั้งเช่นเดียวกับแชมป์ ลา ลีกา รวมทั้งเข้าชิงถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก สองหน แต่พ่ายให้กับ เรอัล มาดริด อริร่วมเมืองทั้งสองครั้ง
1.แฟร้งค์ ชมิดท์ – 17 ปี 6 เดือน
แขวนรองเท้ากับ ไฮเดนไฮม์ ในฐานะอดีตกองหลังปี 2007 และจับงานคุมทีมเป็นสโมสรแรกนับจากนั้น
กระทั่งปี 2023 กุนซือด๊อยทช์วัย 51 ปี กลายเป็นโค้ชที่คุมทีมลูกหนังแห่งเดียวในลีกอาชีพเมืองเบียร์อย่างยาวนานที่สุด จวบจนซีซั่นก่อนเขาสร้างชื่อพา ไฮเดนไฮม์ ก้าวขึ้นสู่ บุนเดสลีกา ได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร และได้สิทธิ์ฟาดแข้งถ้วย คอนเฟอเรนซ์ ลีก รอบเพลย์ออฟในซีซั่นนี้จากการคว้าอันดับ8 ของลีกเมืองไส้กรอก
,