ถ้าเลือกวันได้

สารบัญ

ลิเวอร์พูลต้องการอีก 3 คะแนนเท่านั้นเพื่อเป็นแชมป์ และ 3 คะแนนที่ว่านี้อาจมาได้ทั้งจากผลงานของตัวเองและการเสียแต้มของอาร์เซน่อล

ลิเวอร์พูลกับอาร์เซน่อลเหลือเกมเตะอีกทีมละ 5 นัด หนึ่งในนั้นคือการพบกันเองที่แอนฟิลด์ในเกมที่ 36 ของฤดูกาล เท่ากับว่าลิเวอร์พูลมีโอกาสถึง 9 เกมที่จะทำแต้มขาดและการันตีตำแหน่งแชมป์

แฟนลิเวอร์พูลรอคำตอบ! เนวิลล์ จี้ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ตัดสินใจอนาคตการค้าแข้ง
อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ซึ้งใจประตูชัยของเทรนต์ ชี้เป็นของขวัญล้ำค่าเพื่อทีมลิเวอร์พูล
ชนะอีกเกมเดียว ลิเวอร์พูล จะเป็นแชมป์

มันอาจจะเกิดขึ้นในเกมไหนก็ได้ทั้งนั้นนับจากวันนี้..

(เกมที่ 1) ใกล้ที่สุดคือคืนวันพุธที่จะถึง ถ้า อาร์เซน่อล แพ้ คริสตัล พาเลซ

(เกมที่ 2) ถ้าทีมปืนใหญ่ไม่แพ้พาเลซ ลิเวอร์พูลจะลุ้นทำแต้มขาดในเกมพบ  ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ที่แอนฟิลด์วันอาทิตย์

(เกมที่ 3) หากยังทำไม่ได้ ทีมหงส์แดงก็ยังมีโปรแกรมวันเสาร์หน้า (3 พ.ค.) ให้ อาร์เซน่อล สะดุดในการรับมือ บอร์นมัธ ที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม

(เกมที่ 4) หากยังไม่ได้แชมป์อีกก็ไปลุ้นเอาต่อในเกมเยือน สแตมฟอร์ด บริดจ์ ของเชลซี วันอาทิตย์ที่ 4 พ.ค.

(เกมที่ 5) ถ้ายังยืดเยื้อ เกมที่เจอกันเองกับอาร์เซน่อลในแอนฟิลด์วันอาทิตย์ที่ 11 พ.ค. จะเป็นโอกาสอีกครั้ง

ลองนึกดูสิครับ กระทั่ง 5 เกมเหล่านี้ผ่านไปโดยที่ลิเวอร์พูลยังไม่ได้แชมป์ซึ่งก็นับว่าโอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก ๆ แล้ว ทีมของ อาร์เน่อ ก็ยังมีโอกาสอีกถึง 4 เกมเต็ม ๆ ที่จะทำแต้มทิ้งขาด

(เกมที่ 6 กับ 7) นัดรองสุดท้ายของฤดูกาล อาร์เซน่อล พบ นิวคาสเซิ่ล.. ลิเวอร์พูล เยือน ไบรท์ตัน

(เกมที่ 8 กับ 9) นัดสุดท้ายของฤดูกาล อาร์เซน่อล ไปเยือน เซาธ์แฮมป์ตัน.. ลิเวอร์พูล รับมือ คริสตัล พาเลซ

9 เกมเต็ม ๆ ที่ลิเวอร์พูลมีโอกาสเช็กบิลตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีก จะเป็นเกมไหนก็ได้ในจำนวน 9 เกมนี้ที่แต้มจะขาดลอยอย่างเป็นทางการ

แน่นอนครับ ความมั่นใจย่อมแผ่ซ่านเพราะอย่างที่บอกว่า 3 คะแนนที่ลิเวอร์พูลต้องการอาจมาได้จากทั้งผลงานของตัวเองและการเสียแต้มของอาร์เซน่อล

ย้อนประวัติศาสตร์กลับไปฤดูกาล 1982/83 ลิเวอร์พูลก็นำห่างแบบนี้ และถึงแม้จะแผ่วปลายเหลือเชื่อเก็บได้แค่ 2 คะแนนจาก 7 เกมสุดท้าย แต่การสะดุดของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเกมเยือน นอริช ซิตี้ ก่อนจบฤดูกาล 4 นัดก็ส่งผลให้แชมป์ดิวิชั่นหนึ่งอยู่ที่แอนฟิลด์ต่อไปอีกปี

นั่นคือเงื่อนไขที่ยิ่งทำให้ทุกอย่างยากขึ้นสำหรับการพลิกล็อก ลิเวอร์พูลอาจจะแพ้รวดทุกเกมที่เหลืออยู่ก็ได้ แต่อาร์เซน่อลก็ต้องชนะรวดทุกเกมเช่นกัน

ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของอ๊อปต้าให้โอกาสเป็นแชมป์ของลิเวอร์พูลอยู่ที่ร้อยละ 99.9

เปรียบเทียบง่าย ๆ ให้เพื่อนเราเลือกตัวเลขระหว่าง 1-1,000 มาหนึ่งตัวแล้วให้เราทายให้ถูก

โอกาสทายถูกนั่นแหละโอกาสพลาดแชมป์ของลิเวอร์พูล..

—————

เมื่อโอกาสเป็นแชมป์มีมากมายขนาดนี้ มันก็อาจเกิดความรู้สึกบางอย่างขึ้นมาเหมือนกัน

กับสถานการณ์หนึ่งเราอาจคิดอย่างหนึ่ง แต่กับสถานการณ์อีกอย่างหนึ่งเราก็อาจจะคิดอีกแบบหนึ่ง

เดอะค็อปแทบจะอยู่ในสถานะที่สามารถเลือกได้ สามารถจินตนาการไปถึงสิ่งที่อยากจะเห็นได้

สามารถที่จะเรื่องเยอะนิดหน่อยได้..

จะเป็นแชมป์เกมไหนดี

ถ้าเป็นช่วง 2-3 เกมสุดท้ายของฤดูกาล คำถามนี้คงจะไม่เกิดขึ้น เพราะแฟนบอลคงไม่เลือกแล้ว ขอแค่ให้มันจบเร็ว ๆ แต้มขาดเร็ว ๆ จะที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้ทั้งนั้น ไม่อยากลุ้นเสี่ยงหัวใจวายอีกแล้ว

แต่เมื่อช่องว่างถ่างห่างขนาดนี้ สถานะทิ้งไกลเป็นแชมป์แน่ ๆ แบบนี้ คำถามนี้จึงมีเกิดขึ้นอยู่เหมือนกัน

ในความรู้สึกแล้ว ถ้ามันเกิดขึ้นจริง เราอยากให้มันเกิดขึ้นในเกมไหน..

เร็วสุดก็ตั้งแต่วันพุธนี้เลย ให้อาร์เซน่อลแพ้คริสตัล พาเลซ ทุกอย่างก็จะจบ ง่าย ๆ แค่นั้น

แต่มันก็จะเหมือนกับเมื่อ 5 ปีที่แล้ว คือได้แชมป์จากการสะดุดเองของคู่แข่ง แต้มขาดโดยไม่ต้องลงเตะ

มันก็ดีอยู่หรอก ภาพนักเตะในชุดลำลองกระโดดโลดเต้นฉลองร้องเพลงกันก็ยังไม่ลืม แต่บางทีอาจเพราะมันเกิดขึ้นไปแล้วในหนล่าสุด และสถานการณ์เวลานี้ก็นำห่างเหลือเกิน

ใช่ครับ เราได้ฉลอง แฟนบอลได้ฉลอง นักเตะได้ฉลอง ใคร ๆ ที่เกี่ยวข้องกับลิเวอร์พูลล้วนได้ฉลอง มันยังคงเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมอยู่

กระนั้นมันก็ยังมีสิ่งที่ไม่เหมือนกัน ถ้านำไปเทียบกับการจบภารกิจทำแต้มขาดด้วยตัวเอง

ถ้าเลือกได้และเรื่องเยอะสักหน่อย คิดแบบเอาแต่ใจตัวเองนิด ๆ ผมอยากจะเห็นลิเวอร์พูลเป็นแชมป์ด้วยการลงเล่นเองมากกว่า

และถ้าเป็นไปได้ อยากให้มันเป็นเกมที่แอนฟิลด์ด้วย การทำมันได้ต่อหน้ากองเชียร์ของตัวเอง ในสนามของตัวเอง มันคือที่สุดของที่สุดแล้ว

ผมอยากเห็นบรรยากาศแห่งความตื่นเต้นที่แอนฟิลด์เมื่อทีมกำลังจะเป็นแชมป์

อยากสัมผัสอารมณ์ร่วมตั้งแต่ก่อนเตะที่ทีมรู้เงื่อนไขว่าต้องการอะไร ต้องชนะเพื่อเป็นแชมป์ หรือขอแค่เสมอก็ได้แชมป์ และถ้าโชคดี เมื่อเข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้ายทีมอาจกำลังนำอยู่ จะกี่ประตูก็เถอะ

ผมอยากเห็นบรรยากาศอย่างนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นที่แอนฟิลด์จะยิ่งยินดีมาก

ผมอยากเห็นอารมณ์ของการนับถอยหลังเฝ้ารอเสียงนกหวีดสุดท้ายที่ปรารถนา.. มันจะเป็นเสียงนกหวีดที่หวานฉ่ำที่สุดของฤดูกาล

ผมอยากเห็นกล้อนแพนไปจับบรรดาผู้เล่นตัวสำรองข้างสนาม ซึ่งนาทีนั้นจะไม่มีใครนั่งอยู่ในคอกกันแล้ว

ทุกคนจะออกมายืนออกันจนแทบจะล้นเข้าไปในพื้นที่โค้ช หน้าตาแต่ละคนดูก็รู้ว่ากำลังหื่นกระหายใจจดใจจ่อรอคอยเสียงนกหวีดจากกรรมการอย่างโคตรจะกระสับกระส่ายเลย

“จารย์.. เป่าได้แล้ว จาน.. จ๊านนน”

แล้วผมก็อยากเห็นวินาทีนั้น..

วินาทีที่ผู้ตัดสินชูมือขึ้นฟ้า เป่านกหวีดจบเกม

วินาทีที่ทุกอย่างถูกปลดปล่อย

วินาทีที่เราเป็นแชมป์

แล้วหูของทุกคนก็จะอื้ออึงไปด้วยเสียงไชโยโห่ร้องกึกก้องกัมปนาท น้ำตาอาจคลอเบ้าขึ้นมาทันทีกับภาพที่เห็น

ลองจินตนาการดูสิครับ.. ลองจินตนาการไปด้วยกันดู

พลันที่เสียงนกหวีดจบเกมดังขึ้น นักเตะในสนามก็วิ่งกอดกันกลม หันไปเจอใครก็โผเข้าใส่ไว้ก่อน แล้วกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันล้มกลิ้งล้มหงาย

เสียงตะโกนใส่กันฟังไม่ได้ศัพท์ จับใจความได้บางประโยคว่า “พวกเราทำได้แล้ว!”

บางคนแหงนหน้าขึ้นฟ้า บางคนอาจทรุดลงกับผืนหญ้า แล้วร้องไห้โฮอย่างไม่อายใคร น้ำตาแห่งความปีติภูมิใจพรั่งพรู

ผู้เล่นสำรองและเหล่าสตาฟฟ์โค้ชวิ่งกรูกันลงไปในสนามเหมือนผึ้งแตกรัง กระจัดกระจายกันไปหาเป้าหมายที่อยู่ใกล้ที่สุดตามแต่ทิศทางของแต่ละคน

ใครเป็นใครไม่รู้กันแล้ว กระโดดใส่ไว้ก่อน แล้วแหกปากให้สุดเสียงไปด้วยกัน

แล้วกล้องก็จะจับไปที่ อาร์เน่อ เขาจะทำหน้าอย่างไรกันนะ จะแค่แย้มน้อย ๆ หรือฉีกยิ้มกว้าง แต่ที่แน่ ๆ ฉากหลังที่เป็นอัฒจันทร์แห่งแอนฟิลด์จะอลังการ

วินาทีนั้นเดอะค็อปที่ได้เห็นหน้าของเขาผ่านหน้าจอทีวีก็จะยิ่งรักเขาขึ้นไปอีก.. อาร์เน่อ ปีแรกของคุณมันช่างมหัศจรรย์จริง ๆ

ภาพจากกล้องตัวแล้วตัวเล่ารอบสนามถูกโปรดิวเซอร์เลือกดึงมาออกอากาศ มันคือขุมทรัพย์แห่งความสุขเชียวล่ะ

กองเชียร์แหกปากตะโกนสุดเสียง กวัดแกว่งผ้าพันคอ กระโดดกระทืบเท้าจนอัฒจันทร์สะเทือน

ธงทิวปลิวไสว ผืนผ้าโบกสะบัด สีสันจัดจ้านกลางแดดยามเย็นแห่งเมอร์ซี่ย์ไซด์

แอนฟิลด์ที่มีเสน่ห์อยู่แล้วก็จะยิ่งงดงามขึ้นไปอีก ยามนั้นไม่เพียงมีผู้คนมากมายบนอัฒจันทร์ที่กำลังกอดคอกันทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน หากบรรยากาศในสนามยังพุ่งกระฉูดถึงขีดสุด

มันจะเป็นห้วงเวลาแห่งความทรงจำ แอนฟิลด์อบอวลไปด้วยความสมหวัง ความสุขสันต์ และความฝันที่กลายเป็นจริง

————-

28 เมษายน 1990 คือครั้งล่าสุดที่เดอะค็อปได้ฉลองวินาทีแชมป์ในแอนฟิลด์..

เอียน รัช กับ จอห์น บาร์นส์ ยิงคนละประตูพาทีมพิชิต ควีนส์พาร์ค เรนเจอร์ส 2-1 คว้าแชมป์ลีกสูงสุดสมัยที่ 18 ตั้งแต่ฤดูกาลยังเหลืออีก 2 เกม

เดอะค็อปหลายล้านชีวิตไม่เคยได้สัมผัสมัน กระทั่งอีกหลายคนที่แม้จะเกิดร่วมสมัยก็ยังเลือน ๆ ไปแล้วว่าความรู้สึกในวินาทีนั้นเป็นอย่างไร

เพราะมันก็ผ่านมา 35 ปีเข้าไปแล้ว..

แน่นอนครับ การได้แชมป์นั้นจะอย่างไรย่อมมีคุณค่าเสมอ และก็แน่นอนอีกเช่นกัน คู่ต่อสู้จะเป็นทีมไหนเราไม่ควรลืมที่จะให้เกียรติ

มันคงจะเป็นแค่ความปรารถนาส่วนตัวที่ดูจะเรื่องเยอะอยู่สักหน่อย แต่ไม่รู้สินะ แค่จินตนาการถึงวันนั้นว่าถ้ามันเกิดขึ้นจริงก็หยุดยิ้มไม่ได้เลย..

ตังกุย

,

บริการ

tag:
กีฬาต่างประเทศ ข่าวกีฬา ตลาดนักเตะ ตารางบอล ตารางบอลวันนี้ ทีมชาติไทย นิวคาสเซิ่ล บอลวันนี้ บาร์เซโลน่า บาเยิร์น มิวนิค บุนเดสลีกา ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ปีศาจแดง ปืนใหญ่ ผลบอล ผลบอลเมื่อคืน ผีแดง พรีเมียร์ พรีเมียร์ลีก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ พรีเมียร์ลีกอังกฤษ ฟุตบอลต่างประเทศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ยูโรปา ลีก รูเบน อโมริม ลาลีกา ลาลีกา สเปน ลิเวอร์พูล วิเคราะห์บอล สเปอร์ส หงส์แดง อาร์เซน่อล อาร์เน่อ สล็อต เชลซี เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เปแอสเช เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ เรอัล มาดริด แมนซิตี้ แมนยู แมนยูไนเต็ด แมนฯ ยูไนเต็ด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โปรแกรมบอล โปรแกรมบอลวันนี้