แต่ขณะเดียวกัน มีนักเตะหลายรายที่ได้แชมป์รายการนี้บ่อยครั้งโดยเฉพาะสตาร์ที่เคยค้าแข้งกับ เรอัล มาดริด เจ้าพ่อตัวจริงเสียงจริงของการโม่แข้งรายการดังกล่าว
และหากจะจัดอันดับ 10 นักเตะที่เคยได้โทรฟี่หูใหญ่มากที่สุด ลิโอเนล เมสซี่ ไม่ดีพอที่จะอยู่ในทำเนียบแม้จะเคยได้แชมป์กับ บาร์เซโลน่า มากถึงสี่ครั้งเนื่องจากเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในนัดชิงชนะเลิศปี 2006 ที่ทีมจากกาตาลันสยบ อาร์เซน่อล 2-1 จึงไม่ถูกนับรวมเอาไว้
โหดห้ามอุทธรณ์! คาดไลน์อัพ ลิเวอร์พูล หลัง ฟาน ไดค์ เตรียมต่อสัญญา
ผลบอล แอสตัน วิลล่า 3-2 เปแอสเช | ใจมาแต่ไม่พอ! สิงห์ผงาดคว่ำปารีส ร่วง UCL รอบ 8 ทีมสุดท้าย
อินเตอร์ พบ บาเยิร์น : พวกเขาก็หวั่นใจ! แฮร์รี่ เคน เชื่อเสือใต้พลิกเขี่ยงูใหญ่ร่วงรอบ8ทีมชปล.
อีกทั้งมีหนึ่งเดียวในโผนี้ที่สร้างเซอร์ไพรส์ได้อย่างยิ่งใหญ่เนื่องจากเขาไม่เคยค้าแข้งกับ ราชันชุดขาว
10. มาร์เซโล่ (4ครั้ง)
แม้จะได้แชมป์รายการนี้รวมห้าครั้ง แต่อย่างที่บอกว่าโผชุดนี้นับเฉพาะนักเตะที่ได้ลงเล่นเกมชิงชนะเลิศ ฉะนั้นแล้วอดีตแบ็คซ้ายทีมชาติ บราซิล จึงติดทำเนียบจากการคว้าแชมป์สี่ครั้ง
แรกเริ่มเดิมที อดีตดาวเตะแซมบ้าได้แชมป์ใบนี้หนแรกในปี 2014 นัดขยี้ แอตเลติโก มาดริด 4-1 ในเวลา 120 นาที และได้แชมป์อีกหนในอีกสองปีต่อมาที่พวกเขาดวลลูกโทษพิชิตทีมตราหมี
สำหรับอีกสองหน มาร์เซโล่ พาทีมเอาชนะ ยูเวนตุส 4-1 และ ลิเวอร์พูล 3-1 ในปี 2017 และ 2018
9. อีสโก้ (4 ครั้ง)
ในฐานะอดีตกองกลาง เรอัล มาดริด อีสโก้ ได้แชมป์หูใหญ่ห้าครั้งเช่นกัน แต่เขามีส่วนร่วมในเกมชิงชนะเลิศสี่ครั้ง
ดาวเตะวัย 32 ปีซึ่งปัจจุบันค้าแข้งกับ เบติส ได้แชมป์กับทีม ชุดขาว ในปี 2022 ที่พวกเขาเฉือนชนะ ลิเวอร์พูล 1-0 ด้วย แต่เป็นแค่ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงเล่นจึงไม่นับรวมเช่นกัน
รวมทั้งสิ้น อีสโก้ ลงบู๊รายการนี้ให้ เรอัล มาดริด รวม 62 นัด และได้แชมป์สี่หนตั้งแต่ซีซั่น 2013/14 รวมทั้งอีกสามปีซ้อนในซีซั่น 2015/16 , 2016/17 และ 2017/18
8. อันเดรส อีเนียสต้า (4 ครั้ง)
อดีตสตาร์ทีม บาร์เซโลน่า ได้ถ้วยใบนี้สี่ครั้งเท่ากับ เมสซี่ แต่ทั้งสี่ครั้งเขาลงเล่นนัดชิงชนะเลิศครบถ้วน
และแน่นอนว่าอดีตกองกลางทีมชาติ สเปน เป็นขุนพลหนึ่งเดียวที่ไม่เคยรับใช้ เรอัล มาดริด แต่แทรกเข้ามาอยู่ในทำเนียบนี้ได้สำเร็จ
7. กาเซมีโร่ (4 ครั้ง)
กองกลางแซมบ้ายังค้าแข้งอยู่ในเวลานี้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด หลังประสบความสำเร็จเป็นล้นพ้นกับ ราชันชุดขาว
เป็นอีกรายที่ได้แชมป์ใบนี้กับถิ่น เบร์นาเบว ห้าครั้ง แต่ได้สัมผัสเกมชิงดำทั้งหมดสี่ครั้งโดยในซีซั่น 2013/14 ที่ เรอัล มาดริด เอาชนะ แอตเลติโก มาดริด 4-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ดาวเตะวัย 33 ปีไม่มีชื่อแม้กระทั่งในซุ้มข้างสนาม
ถึงกระนั้นในปี 2017 กาเซมีโร่ ซัดได้หนึ่งประตูพาทีมกำราบ ยูเวนตุส 4-1
6. แกเร็ธ เบล (4 ครั้ง)
ก้าวเข้าสู่ทำเนียบตำนานนักเตะเวลส์ตามระเบียบหลังย้ายไปสร้างชื่อกับ เรอัล มาดริด ได้อย่างยิ่งใหญ่ และได้แชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก กับสโมสรรวมห้าครั้งอีกราย
อย่างไรก็ดี เบล เป็นเพียงตัวสำรองที่นั่งเฉยๆในซุ้มเกมชิงชนะเลิศปี 2022 ที่ เรอัล มาดริด พิชิต ลิเวอร์พูล 1-0
พร้อมกันนี้ อดีตปีกทีม สเปอร์ส โชว์ฟอร์มกระทุ้งประตูในเกมชิงชนะเลิศได้สองหนด้วยนัดถล่ม แอตเลติโก มาดริด 4-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ และปี 2018 ที่เขาตะบันสองตุงพาทีมหักปีก หงส์แดง 3-1
5. คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (5 ครั้ง)
หัวหอกทีม อัล นาสเซอร์ วัย 40 ปีได้แชมป์บิ๊กเอียร์กับ เรอัล มาดริด สี่ครั้ง บวกกับอีกครั้งที่เขาประสบความสำเร็จสมัยเป็นขุนพลทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ในปี 2008 ซึ่ง ผีแดง ดวลลูกโทษชนะ เชลซี แม้เขาจะสังหารลูกโทษพลาด
อย่างไรก็ดี ตลอดสี่ครั้งที่ได้แชมป์กับ เรอัล มาดริด “ซีอาร์เซเว่น” ยิงประตูได้ทั้งสามนัด และสังหารลูกโทษไม่พลาดทั้งสองหนแรกปี 2014 และ 2016 ยกเว้นครั้งเดียวในปี 2018 ที่สยบ ลิเวอร์พูล 3-1 ซึ่งเขาไม่มีชื่อติดสกอร์บอร์ด
4. โทนี่ โครส (5 ครั้ง)
อดีตกองกลางทีมชาติ เยอรมนี ลงเล่นในนัดชิงชนะเลิศครบทั้งห้าครั้งที่เขาได้แชมป์กับ เรอัล มาดริด ก่อนตัดสินใจแขวนรองเท้าหลังจบซีซั่น 2023/24 ซึ่งเขาพาทีมคว้าแชมป์ได้ด้วยการเอาชนะ ดอร์ทมุนด์ 2-0
ในวัย 35 ปี หลายคนชี้ว่า โครส รีไทร์เร็วเกินไปโดยเฉพาะ คาร์โล อันเชล็อตติ ซึ่งยืนยันว่าเขายังสามารถค้าเกือกได้ต่ออย่างสบาย แต่สุดท้ายกุนซืออิตาเลี่ยนก็ไม่อาจเปลี่ยนใจลูกทีมคนสำคัญได้
อันที่จริง โครส ได้แชมป์ใบนี้กับ บาเยิร์น ด้วยในปี 2013 นัดชนะ ดอร์ทมุนด์ 2-1 แต่เขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเกมเนื่องจากบาดเจ็บ
3. คาริม เบนเซม่า (5 ครั้ง)
ไม่แปลกที่ดาวยิงวัย 37 ปีของทีม อัล อิตติฮัด จะได้แชมป์รายการนี้ห้าสมัยเนื่องจากเขาเคยเป็นขุนพลทีม ราชันชุดขาว รุ่นเดียวกับ โรนัลโด้ และ เบล
พร้อมกันนี้ เบนเซม่า ได้รางวัล บัลลงดอร์ มาครองในปี 2022 แม้ วินิซิอุส จูเนียร์ จะเป็นฮีโร่พังประตูให้ทีมกำชัยเหนือ ลิเวอร์พูล 1-0 ในเกมชิงดำของปีดังกล่าว
2. ลูก้า โมดริช (6 ครั้ง)
ในวัย 39 ปี กองกลางทีมชาติ โครเอเชีย มีส่วนร่วมในชัยชนะของเกมชิงชนะเลิศกับ เรอัล มาดริด ครบทั้งหกครั้ง
แม้จะไม่ใช่ลูกหม้อของสโมสร แต่อดีตดาวเตะทีม สเปอร์ส รุ่นเดียวกับ เบล จัดเป็นตำนานของ ราชันชุดขาว ไปแล้วแม้จบซีซั่นนี้เขาน่าจะต้องอำลาสังเวียนแข้ง เบร์นาเบว เนื่องจากหมดสัญญา
1. ดานี่ การ์บาฆาล (6 ครั้ง)
แบ็คขวาเด็กปั้นวัย 33 ปีเป็นขุนพลทีม เรอัล มาดริด อีกรายที่ลงเล่นนัดชิงชนะเลิศครบทั้งหกครั้งที่ทีมดังของ ลา ลีกา คว้าแชมป์มาครองได้
อย่างไรก็ดี ซีซั่นนี้เขามีปัญหาเจ็บหนัก และยังร้างสนามจนถึงเวลานี้โดย ราชันชุดขาว กำลังรอเล่นเกมนัดสองของรอบแปดทีมเฝ้าบ้านดวลกับ อาร์เซน่อล ในวันพุธนี้เพื่อพยายามพลิกสกอร์ตามหลัง 3-0 ทะยานเข้ารอบรองชนะเลิศ
,