1. ตอนแรกคิดว่าน่าจะเป็นเกมบีบหัวใจเด็กผีที่ แมนซิตี้ คงจะครองบอลบุกขย่มเจ้าบ้านอยู่ข้างเดียว เพราะเป็นเกมสำคัญ พวกเขาต้องการชัยชนะ มิเช่นนั้นอาจหลุดจาก ‘ท็อปไฟฟ์’
ที่ไหนได้นะครับ ลูกทีมของ ‘เป๊ป’ กลับเล่นแบบถึงก็ช่างไม่ถึงก็ช่างไปเรื่อยๆ เกมรุกไม่มีความดุดัน และไม่ได้สร้างความกดดันให้ แมนยูไนเต็ด เลยดีกว่า
ผลบอล พรีเมียร์ลีก : เชลซี เจ๊า เบรนท์ฟอร์ด 0-0 ลุ้นเหนื่อยรักษาท็อปโฟร์
ผลบอล พรีเมียร์ลีก : ลิเวอร์พูล บุกพ่าย ฟูแล่ม 1-2 แพ้นัดที่ 3 แต่ยังนำ อาร์เซน่อล 11 แต้ม
แมนยู พบ แมนซิตี้! ตร.เตือนแฟนบอลก่อนเกมดาร์บี้แมตช์
เล่นเหมือนพอใจที่ไม่แพ้มากกว่าเล่นเพื่อชนะ
2. ปีศาจแดง เล่นเกมรับกันได้ไฉไล และไม่แสดงความผิดพลาดอะไรออกมา
เซ็นเตอร์แบ็คทั้ง 3 คน + วิงแบ็ค 2 ข้าง ถอยมาช่วยกันป้องกันเกมรุกที่ต่ำกว่ามาตรฐานของทีมเยือนแบบไม่มีปัญหาจน อองเดร โอนาน่า แทบไม่ต้องเจอลูกยากให้หวาดเสียว
พวกเขาตั้งรับอย่างรัดกุม และระมัดระวัง แดนกลางก็ช่วยกันเล่นพลางตัดเกมของทีมเรือใบได้เป็นระยะ
3. ปัญหาคือหลังจากที่ตัดบอลหรือแย่งบอลได้แล้วเปลี่ยนจังหวะจากเกมรับเป็นเกมรุกนี่แหละ
ประการหนึ่ง นักเตะพันธุ์อสูรมักจะทำบอลเสียง่ายๆ ต่อบอลกันไม่ค่อยแม่นยำเท่าไหร่ เฉพาะอย่างยิ่งมิดฟิลด์ตัวกลาง 2 คนอย่าง กาเซมิโร่ กับ มานูเอล อูการ์เต้ ที่ออกบอลพลาดในจังหวะเข้าด้ายเข้าเข็ม
ประการหนึ่งคือการเข้าทำ และจังหวะสุดท้ายที่ไม่ระคายผิวคู่แข่ง หากมีกองหน้าระดับตีนพระกาฬสักคน อานุภาพและพลังทำลายล้างมันจะมากกว่านี้แน่นอน
แฟนบอลเห็น รูเบน อโมริม เห็น หวังว่าเบื้องบนก็น่าจะเห็นเช่นกันว่าควรทำอย่างไร ???
4. ผมตั้งใจจับตาดูหัวหอกตัวเป้าอย่าง ราสมุส ฮอยลุนด์ เป็นพิเศษ เพราะดูในสนาม มันเห็นอะไรมากกว่าดูในทีวี
ขอบอกว่าการหาตำแหน่งนี่แหละทำให้เขามีส่วนร่วมกับเกมน้อยมาก และหาจังหวะสับไกไม่เจอเลย !!!
ยกตัวอย่างจังหวะหนึ่ง
เมื่อ บรูโน่ แฟร์นันด์ส พาบอลลากจี้เข้ามาตรงกลางหน้ากรอบเขตโทษ ราสมุส ฮอยลุนด์ จึงวิ่งทำทางเข้าไปในกรอบเขตโทษ แต่ ‘ไอ้หนวด’ เลือกไหลไปทางซ้ายให้ แพทริค ดอร์กู ที่เติมขึ้นมา
แทนที่จะฉีกตัวออกไปรอตะบัน หรือดึงตัวเองหนีตัวประกบ เพื่อให้เพื่อนหักบอลย้อนเข้ามา คุณพี่เขากลับวิ่งตีคู่ตาม ดอร์กู ออกไปทางซ้ายด้วยซะงั้น
อืมมมมม…แล้วมึงจะให้เขาผ่านบอลมาให้ตัวเองยังไง ???
5. เห็น แมนยูไนเต็ด เล่นแล้ว ผมอยากให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส สวมบทมิดฟิลด์ตัวกลางมากกว่า แล้วใส่มิดฟิลด์ตัวรุกเพิ่มเข้าไปอีก 1 คน แม้อีกใจก็อยากจะให้กัปตันทีมปีศาจแดงขึ้นไปอยู่ใกล้ๆ ประตูคู่แข่งมากที่สุด
ถ้าดูที่สนาม คุณจะเห็นเลยว่าดาวเตะผู้นี้บัญชาการทุกอย่าง โดยจะคอยบอกเพื่อนร่วมทีมว่าจะบีบสูง จะถอยมารับในแดน จะยืนปิดพื้นที่ แถมยังบอกหัวหอกทีมตัวเองให้ขยับไปตรงไหนตลอดเวลา
รวมถึงการกดดันผู้ตัดสิน และชนกับคู่แข่งเวลามีปัญหา
เห็นขี้หงุดหงิดและโวยวายบนใบหน้าจิ้งจกๆ แบบนี้ แต่เขากลับโดดเด่นกว่า ‘จอมทัพ’ ของ แมนซิตี้ อย่าง เควิน เดอ บรอยน์ ชัดเจน
,
