จากสถิติหลังจบเกม ไม่แปลกที่ แอนจ์ ปอสเตโคกลู กุนซือทีม ตราไก่ จะให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าทีมของเขาสมควรเป็นผู้ชนะมากกว่าแพ้
นั่นเป็นเพราะว่า เจ้าป่า ได้ครองบอลอย่างจุ๋มจิ๋มแค่ 30% เท่านั้น ขณะที่ทีมเจ้าบ้านครองบอลได้สูงถึง 70%
ถ้าไม่เจ็บเจ๋งแน่! ฟาน ไดค์ เชื่อ เคียซ่า คือการเสริมทัพที่ดี
ลือสนั่น! “สเปอร์ส” เตรียมปลดแอนจ์ แม้คว้าแชมป์ยูโรปา ลีก
ผลงานไม่เข้าเป้า! แมนยูเตรียมขาย “ฮอยลุนด์” ขาดทุนยับซัมเมอร์นี้
ไม่เพียงเท่านั้น กุนซือออสซี่ยังชี้ด้วยว่าทีมของเขาไม่สมควรแพ้เนื่องจากมีโอกาสทำประตูมากกว่าอย่างชัดเจนจากสถิติที่บ่งชี้ว่าทีมเมืองกรุงได้ส่องยิงมากถึง 22 ครั้ง ขณะที่อาคันตุกะได้ลุ้นแค่ 4 ครั้งเท่านั้น
อย่างไรก็ดี ในจำนวน 4 ครั้ง ทีมของ นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้ ส่งบอลเข้ากรอบได้ 3 ครั้งขณะที่ สเปอร์ส ยิงทิ้งยิงขว้างส่งบอลเข้ากรอบได้ทั้งหมด 6 ครั้ง
ไม่เพียงเกมหักคอ ไก่เดือยทอง หากแต่ ฟอเรสต์ คว้าผลลัพธ์ได้อย่างต่อเนื่องแม้จะครองบอลได้เป็นรองฝ่ายตรงข้ามลิบลับ
ฉะนั้นแล้ว มันจึงชัดเจนว่าแทคติกของผู้จัดการทีมชาวโปรตุกีสไม่ได้ให้ความสำคัญกับการครองบอล แต่เขาเน้นเกมรับที่แข็งแกร่ง และเกมโต้กลับที่มีประสิทธิภาพ
และที่สำคัญ หากจบซีซั่นนี้ ฟอเรสต์ คว้าสิทธ์ลงเล่นเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ในซีซั่นหน้าได้สำเร็จ หลายทีมที่ไม่ช่ำชองในด้านการครองบอลก็สมควรศึกษาแนวทางการเล่นของพวกเขาเอาไว้
นั่นเป็นเพราะว่าหากจะวัดกันที่เปอร์เซนต์การครองบอลเฉลี่ยตลอดซีซั่น ฟอเรสต์ รั้งอันดับบ๊วยของ พรีเมียร์ลีก ด้วยซ้ำ แต่กลับสร้างผลงานเกาะกลุ่มบนของตารางได้อย่างเหนียวแน่น
“เรามีแนวทางการเล่นที่ชัดเจน และเราพบตัวตนของเราแล้ว” เอสปิริโต้ ซานโต้ เอ่ยกับสื่อ
“เรายิงประตู สเปอร์ส ได้ แต่พวกเขาสร้างโอกาสได้ในครึ่งหลัง และเราต้องยันเกมรุกของพวกเขา”
“เราต่อสู้ได้ดี และเราเข้าแย่งบอลทุกจังหวะ”
ถึงขณะนี้ หาก ฟอเรสต์ จบอันดับท็อปโฟร์ได้สำเร็จ พวกเขาจะเป็นทีมแรกใน พรีเมียร์ลีก ที่สร้างผลงานได้อย่างน่าตกตะลึงกับการครองบอลได้อย่างต่ำต้อยที่สุด
ย้อนกลับไปในซีซั่น 2015/16 ซึ่ง เลสเตอร์ สร้างวีรกรรมคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ได้อย่างสุดเซอร์ไพรส์ จิ้งจอกสยาม มีเปอร์เซนต์การครองบอลเฉลี่ย 42.4%
ขณะเดียวกัน เอฟเวอร์ตัน เป็นทีมเดียวที่จบอันดับท็อปโฟร์ได้ในซีซั่น 2004/05 โดยมีเปอร์เซนต์การครองบอลเฉลี่ยต่ำกว่า 50% ที่ตัวเลข 48.5%
แต่สำหรับ ฟอเรสต์ ถึงขณะนี้พวกเขาครองบอลเฉลี่ยได้แค่ 39.3% เท่านั้น
มองดูแล้วมันจึงเป็นเรื่องแปลกประหลาดสิ้นดีสำหรับเกมลูกหนังยุคใหม่ที่เน้นครองบอลเป็นหลัก หากแต่ ฟอเรสต์ ทำในสิ่งที่ตรงกันข้าม แถมมีโอกาสได้ร่วมบู๊ถ้วยหูใหญ่ในซีซั่นหน้าอีกด้วย
– เปอร์เซนต์การครองบอลเฉลี่ยต่ำสุดของทีมในอันดับท็อปโฟร์ (นับตั้งแต่ซีซั่น 2003/04)
เลสเตอร์ , 2015/16 , 42.40%
เอฟเวอร์ตัน ,2004/05 , 48.50%
สเปอร์ส , 2021/22 , 51.90%
นิวคาสเซิ่ล , 2022/23 , 52.20%
สเปอร์ส , 2009/10 , 52.30%
จากตัวเลขที่เห็น มันชัดเจนว่าการครองบอลไม่ใช่ทุกอย่างโดยเฉพาะ เซาธ์แฮมป์ตัน ซึ่งตกชั้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แถมเก็บแต้มใน พรีเมียร์ลีก ได้น้อยนิดจนเกือบเป็นสถิติใหม่มีเปอร์เซนต์การครองบอลเหนือกว่าหลายๆทีมจนติดอยู่ในกลุ่มกลางตารางด้วยซ้ำ
แต่ก็นั่นแหละ เดอะ เซนต์ส ต่างไปจาก ฟอเรสต์ เนื่องจากพวกเขาไม่มีอาวุธเด็ดในการเล่นเกมโต้กลับ
ดังจะเห็นว่าทีมจากถิ่น ซิตี้ กราวด์ สามารถเปลี่ยนเกมรับให้เป็นเกมโต้กลับฉับพลันได้โดยอาศัย แอนโธนี่ เอลังก้า และ คัลลั่ม ฮัดสัน โอดอย พาบอลบุกตะลุยไปข้างหน้าได้อย่างน่าเกรงขาม
“มันเป็นคาแรกเตอร์หลักของทั้งคู่ พวกเขามีความสามารถที่จะทำให้เรารุกคืบเข้าไปในแดนของคู่แข่งได้”
ขณะเดียวกัน เจ้าป่า มีคุณสมบัติจบสกอร์ได้อย่างเฉียบขาดด้วยจากที่พวกเขาแสดงให้เห็นหมาดๆในเกมบุกกำราบ ไก่เดือยทอง แม้จะมีโอกาสง้างไกแค่ 4 หนตลอดทั้งเกม
ยิ่งไปกว่านั้น ฟอเรสต์ ชิงยิงประตูนำหน้าคู่แข่งได้ก่อนมากกว่าทุกทีมใน พรีเมียร์ลีก ด้วย (24 นัด) และมีเกมเดียวที่ไม่ชนะทั้งๆที่นำหน้า 2-0 นับตั้งแต่เดือนต.ค.2023
“คุณปฏิเสธไม่ได้ว่าเมื่อคุณนำหน้า สิ่งแรกที่คุณต้องทำคือป้องกันประตู” เอสปิริโต้ ซานโต้ ระบุ
“เราช่วยเหลือกันในทีมสำหรับทุกๆสถานการณ์ เราเคลียร์บอลจากปากประตู มันทำให้เรามีความสมดุลย์”
จากการระบุดังกล่าวของกุนซือชาวเมืองฝอยทอง มีหลักฐานยืนยันว่า ฟอเรสต์ เคลียร์ลูกอันตรายได้มากกว่าอีก 12 ทีมใน พรีเมียร์ลีก และรั้งอันดับต้นๆในแง่ของการเข้าปะทะ และแย่งบอลคืนมา
มีแค่ อาร์เซน่อล และ ลิเวอร์พูล สองทีมเท่านั้นที่เสียประตูในเกมลีกน้อยกว่า ฟอเรสต์ ซึ่งโดนเจาะตาข่ายแค่ 39 ลูกจาก 33 นัด และส่งผลให้นายทวาร มัตซ์ เซลส์ มีลุ้นคว้ารางวัลถุงมือทองคำไม่น้อย
ผ่านมาถึงตอนนี้ นายทวารทีมชาติ เบลเยี่ยม เก็บคลีนชีตในเกม พรีเมียร์ลีก ได้ 13 นัด และพลาดคลีนชีต 14 นัดอย่างน่าเสียดายกับการถูก ริชาร์ลิซอน โขกตีไข่แตกให้ สเปอร์ส ในช่วงท้ายเกม
“คุณอาจวิจารณ์ทีมที่เน้นตั้งรับต่ำได้ แต่ชัดเจนว่า ฟอเรสต์ ต้องการเล่นแบบนี้” เจมี่ คาร์ราเกอร์ คอมเมนเตเตอร์ลงความเห็น
“ผมไม่คิดว่า สเปอร์ส สมควรได้รับการสรรเสริญที่มีโอกาสยิงประตูมากมายเพราะ ฟอเรสต์ ปล่อยให้พวกเขาทำอย่างนั้นได้”
– เปอร์เซนต์การครองบอลเฉลี่ยต่ำที่สุดใน พรีเมียร์ลีก ซีซั่น 2024/25
เลสเตอร์ , 42.5%
คริสตัล พาเลซ , 43%
อิปสวิช , 39.9%
เอฟเวอร์ตัน, 39.8%
ฟอเรสต์ , 39.3%
,