ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แมตช์เดย์ที่ 33 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 เมษายน ที่ผ่านมา เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมรองบ๊วยของตาราง รับมือจ่าฝูง ลิเวอร์พูล
ก่อนเกมหลังรู้ผลคู่ วูล์ฟส์ บุกไปเอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-0 ทำให้หมาป่ารอดตกชั้นอย่างเป็นทางการ ส่งผลให้ “จิ้งจอกสยาม” ตกชั้นแน่นอนแล้ว แม้จะชนะจำนวนนัดที่เหลือแต่ไม่เพียงพอต่อการหนีตกชั้นหลังตาม เวสต์แฮม 18 คะแนน แต่ลูกได้เสีย -45 แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะรอดตกชั้น แต่ถ้าเกมนี้แพ้จะตกชั้นอย่างเป็นทางการทันที ส่วน “หงส์แดง” หากคว้าชัยวีกหน้ามีลุ้นการันตีแชมป์หากเปิดแอนฟิลด์เอาชนะ สเปอร์ส
ผลบอล อิปสวิช 0-4 อาร์เซน่อล : ทรอสซาร์ เบิ้ล! ปืนใหญ่ยืดเวลาลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก
ลิเวอร์พูล ไม่ถอย! ร่วมวงแย่งดาวยิงเบรนท์ฟอร์ด กับอาร์เซน่อล-นิวคาสเซิ่ล
เงื่อนไขลิเวอร์พูล การันตีแชมป์พรีเมียร์ลีกคืนนี้ทันที
เปิดฉากครึ่งแรกมาแค่ 3 นาที ลิเวอร์พูล หวิดชิงขึ้นนำก่อนหลัง โม ซาลาห์ ซัดไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย
เช่นเดียวกับ เลสเตอร์ ซิตี้ ในนาทีที่ 10 ที่เกือบได้ขึ้นนำก่อนบ้างหลัง วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ ได้โอกาสสับไกในกรอบแต่บอลไปชนเสา
ก่อนจบครึ่งแรกแบบไร้สกอร์ 0-0 โดยสถิติครึ่งเวลาแรก ลิเวอร์พูล ครองบอลเหนือกว่าถึง 60% กับโอกาสยิง 14 ครั้ง (เข้ากรอบ 6) แต่เปลี่ยนสกอร์ไม่ได้ ส่วนเจ้าบ้าน เลสเตอร์ ซิตี้ มีโอกาสลุ้น 2 หน แต่ยิงไม่เข้ากรอบ
กลับมาเล่นครึ่งหลัง นาที 57 หงส์แดง เกือบได้ขึ้นนำอีกจากจังหวะที่ ดิอาซ พาบอลลุยเข้ามาก่อนบอลทะลักมาเข้าทาง คอสตาส ซิมิกาส ซัดไปติดเซฟ มัดส์ เฮอร์มันเซ่น
จนแล้วจนรอด หลังจากบดหนัก ลิเวอร์พูล มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 ในนาที 76 จากจังหวะเตะมุมเข้ามา ฟานไดค์ ขึ้นโขกแต่ล้นไปเข้าทาง ซาลาห์ สะบัดโขกอีกทีไปชนเสา แม้แข้งจิ้งจอกสกัดออกมาแต่มาเข้าทาง เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ที่ลงมาสำรองหวดด้วยซ้ายเปรี้ยงเดียวเข้าไปอย่างงดงามพา หงส์แดง บุกขึ้นนำเจ้าถิ่น 1-0
จบเกม ลิเวอร์พูล บุกมาเอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 1-0 ส่ง “จิ้งจอก” ร่วงตกชั้นอย่างเป็นทางการ พร้อมกับซิวสามแต้มสำคัญนำจ่าฝูงหนี อาร์เซน่อล ไปเป็น 13 คะแนนเหมือนเดิม และหากเกมหน้าที่แอนฟิลด์เอาชนะ สเปอร์ส ได้หรือ “ปืนใหญ่” แพ้พาเลซก่อนในคืนวันพุธนี้ ลูกทีมของ อาร์เน่อ จะการันตีแชมป์พรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ทันที
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เลสเตอร์ (4-2-3-1) : มัดส์ เฮอร์มันเซ่น – ริคาร์โด้ เปเรยร่า, เวาท์ ฟาส, คอเนอร์ โคดี้, , ลุค โธมัส – วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้, บูบาการี่ ซูมาเร่ – บ็อบบี้ เด คอร์โดบา-รีด, บิลัล เอล คันนูส, สเตฟี่ มาวิดิดี้ – เจมี่ วาร์ดี้
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ – คอเนอร์ แบร็ดลี่ย์, อิบราฮิมา โกนาเต้, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, คอสตาส ซิมิกาส – ไรอัน กราเฟนแบร์ค, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ – โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โดมินิค โซโบซไล, โกดี้ คักโป – ลุยส์ ดีอาซ
,