เปิดฉากมาได้แค่ 4 นาที เลสเตอร์ ซิตี้ ได้ทักทายก่อนหลัง วาร์ดี้ ได้โอกาสซัดเน้นๆ แต่บอลยังไปติดเซฟ โอนาน่า ปัดออกหลังไปได้
นาที 24 โอกาสทองของ “ผีแดง” เกือบได้ลุ้นขึ้นนำหลัง คริสเตียน เอริคเซ่น ปั่นโค้งๆ ไปเสาไกลกำลังจะเข้าอยู่แล้วแต่บอลไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย
อาร์เซน่อล พบ เชลซี! โคล พาลเมอร์ เดี้ยงส่อวืดรับใช้ อังกฤษ
ผลบอล : เมริโน่ โขกชัย! อาร์เซน่อล เฉือน เชลซี ตามหงส์12แต้ม
ลุยเมเจอร์ลีก?ปอล ป็อกบา โผล่ดูเกมลีกแยงกี้
นาที 28 ปีศาจแดง มาชิงขึ้นนำ 1-0 จนได้จากจังหวะที่ บรูโน่ จ่ายทะลุช่องให้ ราสมุส ฮอยลุนด์ หลุดเข้าไปซัดผ่านตัว เฮอร์มันเซ่น เสียบเสาไกลอย่างเฉียบคม ก่อนครึ่งแรกจะจบลงด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลัง เริ่มมาได้แค่นาทีที่ 48 “ผีแดง” ต้องเปลี่ยนตัวคนแรกหลัง เอย์เด้น เฮฟเว่น ดาวรุ่งแนวรับของทีมที่บาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหวต้องถูกหามเปลออกจากสนามก่อนส่ง โทบี้ คอลลีเยอร์ ลงมาเล่นแทน
นาที 57 อเลฮานโดร การ์นาโช่ ส่งบอลเข้าไปนอนก้นตาข่ายได้แล้ว แต่วีเออาร์เช็กก่อนยืนยันเป็นจังหวะล้ำหน้าก่อน ทำให้ผีแดงชวดได้เม็ดที่สองนำห่าง
กระนั้น นาที 67 การ์นาโช่ เอาจนได้หลัง บรูโน่ จิ้มต่อให้ในกรอบก่อนสตาร์อาร์เจนตินาจะกดเสาแรกเข้าไปไม่เหลือพา แมนฯ ยูไนเต็ด นำห่าง 2-0
นาทีที่ 90 ผีมาได้ประตูปิดกล่องจากจังหวะที่ ดาโลต์ จ่ายให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ซัดเข้าไปตุงตาข่ายพา แมนฯ ยูไนเต็ด บุกมานำห่าง 3-0
จบเกม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกเอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 3-0 คว้าสามแต้มตามเป้า รักษาสถิติไม่แพ้ในลีก 4 นัดติด พร้อมขยับรั้งอันดับ 13 มี 37 คะแนน ส่วน “จิ้งจอกสยาม” ของ โค้ชรุด แพ้ 7 นัดติดทุกรายการ จมรองบ๊วย ตาม “หมาป่า” อันดับ 17 โซนปลอดภัยถึง 9 คะแนน
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เลสเตอร์ (3-4-2-1) : มัดส์ เฮอร์มันเซ่น – เวาต์ ฟาส, คอเนอร์ โคดี้, ลุค โธมัส – เจมส์ จัสติน (สตีฟี่ มาวิดิดี้ น.82, วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้, บูบาการี่ ซูมาเร่ (แฮร์รี่ วิงค์ส น.64), วิคเตอร์ คริสเตียนเซ่น (เคซี่ย์ แม็คเอเทียร์ น.82) – แพตสัน ดาก้า (ฟาคุนโด้ บัวนาน็อตเต้ น.64), บิลัล เอล คันนูส (จอร์แดน อายิว น.90+1) – เจมี่ วาร์ดี้
แมนฯ ยูไนเต็ด (3-4-2-1) : อันเดร โอนาน่า – มาต์ไตส์ เดอ ลิกต์, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, เอย์เด้น เฮฟเว่น (โทบี้ คอลลีเยอร์ น.51) – นูสแซร์ มาซราวี, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, มานูเอล อูการ์เต้ (กาเซมีโร่ น.69), ดีโอโก้ ดาโลต์ – คริสเตียน เอริคเซ่น (แฮร์รี่ อามาสส์ น.69), อเลฮานโดร การ์นาโช่ (โจชัว เซิร์กซี น.69) – ราสมุส ฮอยลุนด์ (ไทเลอร์ เฟรดริคสัน น.84)
,
