1. สาลิกา ไร้เจ้านายจัดทีมเดิมบู๊
นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ลงสนามเกมนี้โดยไม่มี เอ็ดดี้ ฮาว กุนซือคนเก่งคุมทีมหลังล้มป่วยมาสองสามวัน และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อเช็กอาการเมื่อคืนวันศุกร์
แข้งเปลี่ยนเกม! คีน เชื่อถ้า ซาลาห์ อยู่ อาร์เซน่อล คงแชมป์ไปแล้ว
นิวคาสเซิ่ล พบ แมนยู! บรูโน่ แฟร์นันด์ส เชื่อผีงัดฟอร์มเก่งนัดฉะ ลียง
ผลบอล อุซเบกิสถาน U17 3-1 ยูเออี U17 : อุซเบฯ อัดสบายฉลุยนั่งรอรอบตัดเชือก
กระนั้นก็ดี แม้ เจสัน ทินดัลล์ มือขวาของ ฮาว จะทำหน้าที่แทนในเกมนี้ แต่ เดอะ แม็คพายส์ ยังจัดทัพ 11 คนแรกชุดเดิมลงเล่นเป็นเกมที่ห้าติดต่อกันแล้ว
จากโผดังกล่าวหมายความว่า สาลิกาดง ยังไร้ แอนโธนี่ กอร์ดอน ปีกคนสำคัญที่มีปัญหาเจ็บสะโพก หากแต่เกมนี้สตาร์ทีมชาติ อังกฤษ ฟิตมากพอที่จะมีชื่อเป็นตัวสำรองซึ่งเป็นเกมแรกนับตั้งแต่วันที่ 2 มี.ค.ที่เขาอยู่ในโผนับตั้งแต่ติดโทษแบนรวมทั้งบาดเจ็บ
2. โอนาน่า โดนเขี่ย-ผีส่งดาวรุ่งประเดิมเกมลีก
แมนฯ ยูไนเต็ด ปรับทัพหลายตำแหน่งเป็นการมองข้ามช็อตก่อนเกมบู๊กับ ลียง นัดสองของถ้วย ยูโรปา ลีก รอบแปดทีมช่วงกลางสัปดาห์
รูเบน อโมริม สลับโผตัวจริงรวมห้ารายโดยไม่มีชื่อ อ็องเดร โอนาน่า เดินทางมากับทีมด้วย และเป็น อัลตาย บายินดีร์ ที่ได้เฝ้าเสาเป็นตัวจริงเกมแรกใน พรีเมียร์ลีก
นอกจากนี้ แฮร์รี่ เอมาสส์ ดาวรุ่งแบ็คซ้ายวัย 18 ปีถูกส่งลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมลีกนัดแรกเช่นกัน ขณะที่ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ , กาเซมีโร่ และ แพทริค ดอร์กู สามคีย์แมนได้นั่งพักที่ข้างสนามเช่นเดียวกับ ราสมุส ฮอยลุนด์ ดาวยิงเกือกทื่อ
จากการถูกส่งลงเล่นทำให้ เอมาสส์ เป็นนักเตะ ผีแดง อายุน้อยที่สุดเป็นอันดับสี่ (18 ปี 28 วัน) ที่ได้ประเดิมสนามในเกม พรีเมียร์ลีก ให้กับสโมสรรองจาก เมสัน กรีนวู้ด (17 ปี 223 วัน) , เฟเดริโก้ มาเคด้า (17 ปี 253 วัน) และ ฟิล เนวิลล์ (18 ปี 21 วัน)
ขณะเดียวกัน ในซุ้มข้างสนาม ทีมเยือนมีตัวเลือกเพิ่มอีกรายหลังจาก อายเด็น เฮฟเว่น หายเจ็บเดินทางมากับทีมได้
3. ภาพจำผีแดง
เป็นอีกนัดและอีกนัดที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เสียประตูให้กับทีมคู่แข่งก่อนอีกตามเคยในเกม พรีเมียร์ลีก หลังถูก ซานโดร โตนาลี ซัดเม็ดแรกให้ นิวคาสเซิ่ล นำหน้าในนาทีที่ 24
ด้วยเหตุนี้ ผีแดง จึงมีสถิติที่เลวร้ายเสียประตูในเกม พรีเมียร์ลีก ก่อนเป็นนัดที่ 19 ในซีซั่นนี้แล้วซึ่งเป็นสถิติที่แย่ที่สุดร่วมในรายการนี้ของพวกเขาเองด้วยเช่นกัน (19 นัดในซีซั่น 2013/14)
อย่างไรก็ดี แม้รูปเกมจะแย่กว่าอื้อซ่า แต่ทีมของ อโมริม ตีเสมอ 1-1 ได้ในนาทีที่ 37 จากการสอยตาข่ายของ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ซึ่งเป็นประตูที่สองของเขาจาก 20 เกมหลังใน พรีเมียร์ลีก
ถึงกระนั้น รวมแล้ว การ์นาโช่ ยิงได้ในเกม พรีเมียร์ลีก เป็นลูกที่ 15 ซึ่งเป็นผลงานที่ดีที่สุดเป็นอันดับสองในหมู่ดาวเตะอเมริกาใต้ที่มีอายุไม่เกิน 21 ปีรองจาก กาเบรียล เชซุส ซึ่งยิงได้ 16 ประตู
4. อิซัก ไม่ยิง บาร์นส์ ยิง
แม้เกมนี้ อเล็กซานเดอร์ อิซัก ดาวยิงทีมแชมป์ คาราบาว คัพ จะไม่มีชื่อติดสกอร์บอร์ดในเกมต้อนรับ แมนฯ ยูไนเต็ด แต่เป็น ฮาร์วีย์ บานร์นส์ ที่ฉายฟอร์มโดดเด่นด้วยการกระซวกสองเม็ดพา สาลิกาดง กำชัยอย่างงดงาม 4-1
จากผลงานดังกล่าวทำให้ บาร์นส์ เป็นพ่อค้าแข้งรายที่สองของทีมที่ยิงเบิ้ลใส่ ผีแดง ได้ในเกม พรีเมียร์ลีก เช่นเดียวกับที่ อลัน เชียเรอร์ ตำนานดาวยิงคนดังเคยฝากผลงานเอาไว้ในเดือนธ.ค. 2000
นอกจากนี้ เจค็อบ เมอร์ฟีย์ ซึ่งแอสซิสต์ให้เจ้าบ้านแซงนำ 2-1 หลัง อิซัก แอสซิสต์เม็ดแรกของเกมนับเป็นขุนพลทีม สาลิกาดง ที่มีฟอร์มน่าประทับใจอีกรายในซีซั่นนี้เนื่องจากตัวรุกเลือดผู้ดีจัดแอสซิสต์ได้เป็นเม็ดที่ 9 แล้วในทุกรายการนับตั้งแต่เดือนธ.ค.
ขณะเดียวกัน เมอร์ฟีย์ เป็นนักเตะ สาลิกาดง รายแรกด้วยที่แอสซิสต์เกม พรีเมียร์ลีก ในหนึ่งซีซั่นได้ทะลุหลัก 10 ประตูต่อจาก โลร็องต์ โรแบร์ ในซีซั่น 2001/02
พร้อมกันนี้ ชัยชนะ 4-1 ของทีมอีสานเป็นครั้งแรกที่พวกเขาสอยตาข่าย ผีแดง ในเกม พรีเมียร์ลีก ได้สี่เม็ดนับจากเดือนก.ย.2011 ซึ่งพวกเขาเฉือนชนะ 4-3
ด้าน แมนฯ ยูไนเต็ด เสียประตูมากถึง 48 เม็ดในทุกรายการนับตั้งแต่ อโมริม ย้ายมาคุมทีม และมีแค่ เซาธ์แฮมป์ตัน 59 , สเปอร์ส 53 และ เลสเตอร์ 53 เป็นทีมใน พรเมียร์ลีก ที่เสียประตูในทุกรายการมากกว่าสำหรับช่วงเวลาเดียวกัน
หลังพิชิต แมนฯ ยูไนเต็ด ได้สำเร็จ นิวคาสเซิ่ล เอาชนะเกมลีกเหนือ ผีแดง ได้ทั้งสองนัดในซีซั่นเดียวกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ซีซั่น 1930/31 และเป็นทีมที่สี่ใน พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ที่สยบ เร้ด เดวิลส์ ได้สองเกมเช่นเดียวกับ ไบรท์ตัน , ฟอเรสต์ และ สเปอร์ส
ถึงตอนนี้ ผีแดง แพ้เกมลีก 14 นัดแล้วซึ่งเป็นผลงานเลวร้ายที่สุดร่วมของสโมสรเช่นเดียวกับซีซั่นก่อนซึ่งพวกเขาคว้าอันดับ 8 จากการเก็บได้ 60 แต้ม และอย่าลืมว่าพวกเขาสามารถแพ้เพิ่มได้อีกเนื่องจากยังเหลือเกมอีก 6 นัด แต่หากนับรวมสมัยยังเป็นดิวิชั่นหนึ่งเดิม พวกเขาแพ้มากที่สุด 16 นัดจาก 38 นัด และจบอันดับ 13 ในซีซั่น 1989/90
5. ลียง แอบยิ้ม?
ไม่ใช่การเตรียมความพร้อมที่ดีเอาซะเลยสำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด ก่อนเกมปะทะกับ ลียง นัดสองหลังพวกเขาบุกมาแพ้ นิวคาสเซิ่ล ด้วยสกอร์ที่น่าอดสู
มันเป็นเพราะถึงตอนนี้พวกเขาชนะไม่เป็นมานานสี่เกมติดต่อกันแล้วในทุกรายการโดยเฉพาะเกมแพ้แชมป์ คาราบาว คัพ ในสภาพศพไม่สวยย่อมส่งผลกระทบถึงความมั่นใจในเกมกลางสัปดาห์นี้
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า อโมริม ทิ้งเกม พรีเมียร์ลีก นัดนี้ชัดเจนหลังโรเตชั่นนักเตะหลายรายจนส่งผลให้พ่ายทีมอีสานกระเจิงเนื่องจากพวกเขาต้องการคว้าแชมป์ ยูโรปา ลีก เพื่อพยายามคว้าตั๋วลงเล่นถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นหน้า
แต่แน่นอนว่าหลังโดน สาลิกาดง ยำใหญ่ กุนซือโปรตุกีสจะเจองานหนักโดยไม่อาจหลีกเลี่ยงได้สำหรับการจัดทัพต่อกรกับทีมจากเมืองน้ำหอม
ไล่ตั้งแต่คำถามแรกว่า บายินดีร์ จะได้ลงสนามต่อหรือไม่หลังได้รับโอกาสสำคัญเนื่องจาก โอนาน่า ก่อความผิดพลาดจนทีมเสียสองประตูเมื่อกลางสัปดาห์ แต่กลายเป็นว่านายทวารเติร์กเล่นพลาดเช่นกันจนทีมตาข่ายทะลุเม็ดโดนตอกฝาโลงแม้แน่นอนว่าตอนนั้นสกอร์จะขาดไปแล้ว และมันไม่ได้สำคัญอะไรแล้ว แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า อโมริม จะต้องขบคิดจนหัวกบาลระเบิดแน่ว่าจะส่งใครลงป้องกันประตูในเกมหน้า
ไม่เพียงเท่านั้น นุสแซร์ มาซราวี ก่อความผิดพลาดจนทีมเสียประตูเช่นกันซึ่งเป็นการตอกย้ำให้เห็นว่ากองหลังทีมชาติ โมร็อกโก เริ่มมีฟอร์มที่ตกลงเป็นลำดับ และไม่แน่ว่าเขาจะรักษาตำแหน่งเอาไว้ได้หรือไม่ในเกมกลางสัปดาห์
ขณะเดียวกัน อโมริม มีตัวเลือกในแดนหลังมากขึ้นหลังได้ ลุค ชอว์ กับ อายเด็น เฮฟเว่น หายเจ็บ แต่ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้น โจชัว เซิร์กซี่ โดนเปลี่ยนตัวออกเนื่องจากบาดเจ็บที่ เซนต์ เจมส์ พาร์ค จึงไม่แน่ว่าสตาร์ดัตช์จะลงเล่นกับ ลียง ได้หรือไม่ซึ่งหากไม่ได้ก็จะเป็น ฮอยลุนด์ ที่ทีมพึ่งพาอาศัยไม่ได้ต้องออกสตาร์ตนัดมิดวีกนี้
ดูไปดูมา ลียง น่าจะแอบยิ้มในใจที่คู่แข่งของพวกเขาประสบกับปัญหารอบด้านจนอาจทำให้ อโมริม จับต้นชนปลายไม่ถูกต่อการควานหานักเตะที่ดีที่สุด 11 คนแรกลงเล่นที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในวันพฤหัสบดีนี้
,