ปัจจุบันทั้ง 2 ทีมต่างก็อยู่ในสภาพที่ห่างไกลจากการลุ้นแชมป์ลีกของประเทศตัวเอง ทั้งที่พวกเขาเคยครองความยิ่งใหญ่ในลีกได้อย่างต่อเนื่อง แต่จนถึงตอนนี้พวกเขาก็มีผลงานที่โดดเด่นกับการเล่นเกม ยูโรปา ลีก ซีซั่นนี้ หลังจาก ลียง กดไปแล้วถึง 23 ลูก ส่วน แมนยูไนเต็ด ทำได้ 21 ประตู ซึ่งเราจะมากล่าวถึงเกร็ดก่อนเกมเพื่อรับกระแสกันสักหน่อย
– แมนยู ผลงานการเจอกันเองดีกว่า
เดิมพันมันสูง! ฟอนเซก้า รับอาจเจอ แมนยู เวอร์ชั่นโหดสุด
แมนยู มีลุ้นได้ดีแลปราคาสุดพิเศษ! สื่อแฉเงื่อนไขลับหากอิปสวิชตกชั้น
ลียง พบ แมนยู! โอนาน่า ไม่ทน โพสต์สวนอดีตแข้งผีทันควันหลังโดนแขวะ
ก่อนหน้านี้คู่นี้เคยเจอกันในเกมฟุตบอลถ้วยยุโรปทุกระดับมาแล้ว 4 ครั้ง ซึ่งผลก็คือ แมนยูไนเต็ด ชนะได้ 2 หน และจบลงด้วยการเสมอกันอีก 2 เกม ทำให้ แมนยูไนเต็ด คืออันดับ 2 ในชาร์ตคู่แข่งที่ ลียง เจอด้วยบ่อยที่สุดแล้วยังไม่เคยเอาชนะได้เลยในเกมถ้วยยุโรป โดยอันดับ 1 คือ บาร์เซโลน่า ที่จำนวน 8 นัด (เสมอ 3 ครั้งและแพ้ 5 นัด)
สำหรับ 2 ครั้งก่อนหน้านี้ที่ แมนยูไนเต็ด มาเยือน ลียง มันจบลงด้วยการเสมอทั้ง 2 หน แถมยังเกิดขึ้นในสภาพที่ ลียง นำไปก่อนทั้ง 2 เกมด้วย ไม่ว่าจะเป็นเมื่อช่วงเดือนกันยายน ปี 2004 ที่เจ้าถิ่นนำไปก่อน 2-0 แต่ แมนยูไนเต็ด ตามตีเสมอเป็น 2-2 ได้ และเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2008 ที่เจ้าถิ่นนำไปก่อน 1-0 แต่ก็จบลงด้วยสกอร์ 1-1
– ลียง ลงเป็นยิงในถ้วยยุโรป
อย่างที่บอกไปว่าในฤดูกาลนี้ ลียง ยิงในถ้วย ยูโรปา ลีก ได้แล้วถึง 23 ลูก ทำให้นี่เป็นซีซั่นที่พวกเขาทำประตูในเกมถ้วยยุโรปได้มากที่สุดเป็นอันดับ 3 ในประวัติศาสตร์ของสโมสร ต่อจาก 29 ประตูที่ทำได้ใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่น 2004-05 และ 28 ลูกในฤดูกาล 2016-17 ที่ตอนแรกลงเล่นใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ก่อนจะหล่นไปเล่นใน ยูโรปา ลีก
– ปีศาจแดง สถิติหรูใน ยูโรปา ลีก
เชื่อหรือไม่ว่าในการลงเล่นเกม ยูโรปา ลีก 21 นัดหลังสุดนั้น แมนยูไนเต็ด ชนะได้ถึง 14 เกม, เสมอ 6 นัด และแพ้เพียงแค่หนเดียว นั่นคือเกมที่ออกไปแพ้ เซบีย่า 0-3 เมื่อเดือนเมษายน ปี 2023 โดยนั่นเป็นเกมเดียวในช่วง 21 นัดที่ว่าที่พวกเขาทำประตูไม่ได้ด้วย
– แมนยูไนเต็ด นัดแรกมาดี
แมนยูไนเต็ด ไม่แพ้ในนัดแรกกับการเล่นรอบน็อกเอาต์ของเกมถ้วยยุโรปมา 11 เกมติดต่อกันแล้ว แบ่งเป็นการชนะ 5 เกมกับเสมอ 6 หน โดยครั้งสุดท้ายที่พวกเขาแพ้นัดแรกคือเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ เมื่อเดือนเมษายน ปี 2019 ที่พ่าย บาร์เซโลน่า 0-1
– ลางร้ายของ ฟอนเซก้า ?
นี่จะเป็นการได้สัมผัสกับเกม ยูโรปา ลีก นัดที่ 50 พอดิบพอดีของ เปาโล ฟอนเซก้า กุนซือ ลียง ทำให้เขาจะถือเป็นกุนซือคนที่ 5 ที่ได้คุมทีมลงเล่นเกม ยูโรปา ลีก อย่างน้อย 50 นัด ต่อจาก อูไน เอเมรี่ (93 เกม), ฮอร์เก้ เชซุส (68 เกม), โชเซ่ มูรินโญ่ (58 เกม) และ ยินดริช แตร์ปิซอฟสกี้ (52 เกม)
อย่างไรก็ตาม ในบรรดา 4 รุ่นพี่ของเขานั้น มีถึง 3 คนที่แพ้ในการนำทีมลงเล่นศึก ยูโรปา ลีก นัดที่ 50 ของตัวเอง โดยคนเดียวที่รอดจากอาถรรพ์นั้นคือ เอเมรี่ ที่ทำได้ในนัดชิงชนะเลิศของฤดูกาล 2014-15 กับทาง เซบีย่า
– บรูโน่ vs แชร์กี้
บรูโน่ แฟร์นันด์ส มิดฟิลด์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สามารถทำแอสซิสต์ในรอบน็อกเอาต์ของศึก ยูโรปา ลีก ได้ทั้งหมด 11 ครั้งในกรณีที่นับรวมทุกฤดูกาล ทำให้เขาถือเป็นนักเตะที่มียอดแอสซิสต์ในรอบน็อกเอาต์ของ ยูโรปา ลีก มากที่สุดตลอดกาลเท่ากับ ฆวน มาต้า นั่นหมายความว่า บรูโน่ ต้องการอีกเพียง 1 แอสซิสต์เพื่อที่จะครองบัลลังก์แต่เพียงผู้เดียว
อีกด้านหนึ่ง ราย็อง แชร์กี้ ดาวเตะตัวเก่งของ ลียง ก็ทำแอสซิสต์ใน ยูโรปา ลีก เฉพาะซีซั่นนี้ไปแล้วถึง 8 หน และถ้าทำได้อีก 1 ครั้ง เขาก็จะกลายเป็นนักเตะที่ทำแอสซิสต์ต่อการเล่น 1 ฤดูกาลของ ยูโรปา ลีก ได้มากที่สุดตลอดกาลแบบเดี่ยวๆ หลังจากตอนนี้ครองอันดับร่วมกับ ดีเอโก้ กุนญ่า ที่เคยทำได้ 8 แอสซิสต์กับ แอตเลติโก มาดริด ในฤดูกาล 2011-12
– เด็กเกร็ดบอล –
,