ฟุตบอล เอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบ 8 ทีมสุดท้าย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคม ที่ผ่านมา เป็นการเจอกันของสองทีมจากพรีเมียร์ลีก บอร์นมัธ เปิด ไวตาลิตี้ สเตเดี้ยม รับมือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์ 7 สมัย และรองแชมป์เก่าเมื่อซีซั่นที่แล้ว โดยผู้ชนะจะผ่านเข้าไปเล่นในรอบรองชนะเลิศ พบกับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ที่สนามเวมบลี่ย์ ช่วงวันที่ 26-27 เม.ย.นี้
เปิดฉากมาแค่ 12 นาทีแรก เรือใบสีฟ้า มาได้ลูกที่จุดโทษหลัง แบร์นาร์โด ซิลวา ดีดบอลไปโดนแขน ไทเลอร์ อดัม ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษทันที ทว่า เออร์ลิง ฮาลันด์ ดันยิงไม่ดีซัดไปเข้ามือ เกป้า ที่พุ่งถูกทางรับเข้าซองไว้อย่างยอดเยี่ยม
ยังเก่งได้อีก! เอเมรี่ โคตรปลื้มฟอร์ม แรชฟอร์ด โหดจัดทุบเปรสตัน
ฟอเรสต์ ลุ้นดวล แมนซิตี้! สรุปผลจับสลากตัดเชือก เอฟเอ คัพ
ทีมเยือนได้ไปต่อบ่อย! เกร็ดก่อนเกม บอร์นมัธ พบ แมนซิตี้
นาที 16 ฮาลันด์ ได้บอลหลุดเดี่ยวเข้าไปดวลกับ เกป้า แต่สตาร์ทีมชาตินอร์เวย์ยิงบอลเฉียดคานไปอย่างน่าเสียดาย
เมื่อทำไม่ได้ก็โดนซ่ะเลย! นาที 21 กลายเป็น บอร์นมัธ ที่ชิงขึ้นนำไปก่อน 1-0 จากจังหวะที่เจ้าถิ่นตัดบอลได้ เดวิด บรู๊คส์ เปิดมาเสาไกลให้ จัสติน ไคลเวิร์ต ที่เบียด นูเนส ซัดผ่านเอแดร์ซอน บอลกำลังจะข้ามเส้นอยู่แล้วแต่ เอวานิลซอน วิ่งมาจิ้มด้วยหัวเกือกเข้าไป ก่อนจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลัง เป๊ป ปรับแท็คติกเปลี่ยนเอา คูซานอฟ ที่ติดใบเหลืองออก แล้วส่ง นิโก้ โอเรลลี่ แบ็กซ้ายที่กดสองเม็ดรอบที่แล้วลงมาเล่นแทน
และไอ้หนูวัย 20 ปี ไม่ทำให้ผิดหวังควบบอลหลุดขึ้นมาทางซ้ายก่อนปาดเลียดไปเสาไกลให้ เออร์ลิง ฮาลันด์ วิ่งมาซัดเข้าไปไม่พลาดแก้ตัวพาทีมไล่เจ๊า 1-1 สำเร็จ
เกมผ่านไปหนึ่งชั่วโมง เป๊ป ต้องเปลี่ยนเอา ฮาลันด์ ออกหลังมีอาการเจ็บแล้วส่ง โอมาร์ มาร์มูช ลงมาเล่นแทน
และอีกครั้่งที่ตัวสำรองของซิตี้มาทำแสบ นาที 63 ไอ้หนู โอเรลลี่ ฉกบอลหน้าประตูก่อนแอสซิสต์ให้ มาร์มูช ที่เพิ่งลงมาซัดเลียดผ่านมือ เกปา พา แมนฯ ซิตี้ ขึ้นนำ 2-1
นาที 82 ลูกทีมของ เป๊ป เกือบได้เม็ดที่สามนำห่างหลัง กุนโดกัน ซัดด้วยซ้ายบอลโค้งหนีมือ เกป้า ไปแล้วแต่ไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย
จบเกม แมนฯ ซิตี้ พลิกแซงเอาชนะเจ้าถิ่น บอร์นมัธ 2-1 ผ่านเข้าไปเล่นใน รอบรองชนะเลิศ ที่สนามเวมบลี่ย์ พบกับ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ในช่วงวันที่ 26 หรือ27 เม.ย.นี้
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
บอร์นมัธ (4-2-3-1) : เกปา อาร์รีซาบาลาก้า – ลูอิส คุก, มาร์กอส เซเนซี่ (แดเนี่ยล เจบบิสัน น.85), อิลลีย่า ซาบาร์นี่, ฮูลิโอ โซเลร์ (เจมส์ ฮิลล์ น.57) – ไรอัน คริสตี้ (อดัม สมิธ น.74)
, ไทเลอร์ อดัมส์ – อองตวน เซเมนโย่, จัสติน ไคลเวิร์ต, เดวิด บรู๊คส์ (ด็องโก้ อ็อตตาร่า น.57) – เอวานิลซอน (อเล็กซ์ สก็อตต์ น.73)
แมนฯ ซิตี้ (4-2-3-1) : เอแดร์ซอน -มาเตอุส นูเนส, อับดูโกดีร์ คูซานอฟ (นิโก้ โอเรลลี่ น.46), รูเบน ดิอาส, ยอชโก้ กวาร์ดิโอล – มาเตโอ โควาซิช (นิโก้ กอนซาเลซ น.83), อิลคาย กุนโดอัน (เจมส์ แม็คอาตี้ น.83) – แบร์นาร์โด ซิลวา, เควิน เดอ บรอยน์, ฟิล โฟเด้น (แจ็ค กรีลิช น.69) – เออร์ลิง ฮาลันด์ (โอมาร์ มาร์มูช น.61)
,